บ้านมือสอง เป็นอีกตัวเลือกของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ด้วยราคาที่คุ้มค่าลงมานิดหน่อย ไม่ต้องดีลกับทางโครงการโดยตรง หรืออาจจะเป็นปัจจัยอื่นๆ เช่น การซื้อต่อจากคนรู้จัก หรือแม้แต่ซื้อจากเจ้าของที่ตกแต่งทุกอย่างให้ครบแล้ว พร้อมเข้าอยู่ได้เลยในราคาที่แพงขึ้นนิดหน่อยแต่ได้ความสะดวกสบายอย่างพร้อมสรรพแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าบ้านมือสองก็ย่อมหมายถึงผ่านการจัดการตกแต่ง หรือเข้าอยู่มาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แม้จะมีความสะดวกสบายและความคุ้มค่าที่ตามมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงการเสื่อมสภาพ หรืออายุการใช้งานของบ้านที่ลดลงไปด้วย ดังนั้นการให้ความสำคัญในการเลือกบ้านมือสอง รวมถึงสิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อบ้านมือสองนั้น มีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ซื้อ จะต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วน เพื่อลดการเกิดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ตามมาในภายหลัง เพื่อและได้บ้านมือสองในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด สามารถอยู่ได้อย่างสบายใจ และสามารถอยู่อาศัยต่อไปได้ในช่วงเวลาที่มาถึงมือของคุณ
1.ตรวจสอบกรรมสิทธิ์โอนบ้าน
เนื่องจากการปล่อยบ้านมือสองนั้น มีมาได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งหากมีการบังคับปล่อยขายจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เช่นกรมบังคับคดี การทำเรื่องซื้อบ้านและโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว อาจจะยังมีผู้อยู่อาศัยเดิมอยู่ที่ยังไม่ได้ย้ายออกไป ทั้งๆ ที่บ้านได้เป็นของเราเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น ดังนั้นก่อนจะเริ่มโอนย้ายกรรมสิทธิ์บ้าน จำเป็นจะต้องตรวจสอบบ้านในเรื่องเอกสาร และความเป็นอยู่ในปัจจุบันที่แท้จริงอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน ในกรณีที่ผู้ซื้อเป็นฝ่ายดำเนินการเองทั้งหมด
2.ตรวจสอบสภาพ บ้านมือสอง โดยละเอียด
เมื่อผ่านการใช้งานมาแล้วปัญหาที่อาจตามมากับบ้านมือสองนั้น มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของตัวบ้านและบริเวณรอบๆบ้าน เช่น ปลวกกินพื้น, หลังคารั่ว, ท่อประปาแตก, การรุกล้ำพื้นที่ของสิ่งต่างๆโดยรอบ ดังนั้น ผู้ที่กำลังมองหาบ้านมือสอง ควรจะตรวจสอบโครงสร้าง และสิ่งแวดล้อมก่อนเป็นอันดับแรกๆ มุ่งเน้นไปที่ตัวบ้าน เพื่อตรวจหาร่อยรองการเสื่อมสภาพ โดยให้น้ำหนักสิ่งนี้มากกว่าความใหม่แกะกล่องส่วนอื่นๆ
3.ตรวจสอบทำเลที่ตั้งและการเวนคืน
เมื่อเป็นบ้านมือสองทำเลที่ตั้งอาจจะมีข้อจำกัดที่ผู้ซื้อไม่สามารถกำหนดเองได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ จำเป็นจะต้องทดลองไปเยี่ยมเยียนบ้านมือสองบ่อยขึ้น ลองดูการเดินทาง วิถีชีวิตรอบๆ ตรวจสอบดูว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ หรือนอกโครงการ การเดินทางไปในที่ต่างๆ การเข้าถึงสวนสาธารณะ ตลาด รวมไปถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าอยู่ทั้งสิ้น รวมไปถึงการเข้าไปตรวจสอบทำเลละเอียดกับทางสำนักงานเขต ว่าทำเลของบ้านหลังนี้ มีโอกาสที่จะถูกเวนคืนที่ดินหรือไม่ เพราะหากมีโอกาส ระยะเวลาการอยู่อาศัยก็จะมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้นมา
4.ตรวจสอบประวัติของบ้าน
หากเป็นบ้านแยกเดี่ยว ไม่ได้อยู่ในโครงการ ไม่ได้มีผู้อยู่อาศัยเป็นเวลานาน ควรมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าบ้านมีประวัติเป็นมาอย่างไรตามสมควร อายุของผู้ถือกรรมสิทธิ์คนก่อน เหตุผลที่ปล่อยขาย เพราะนอกจากจะมองเรื่องความสบายใจเมื่อเข้าอยู่แล้ว ยังรวมไปถึงอายุการใช้งานของบ้าน และการประเมิณราคาขายที่เป็นธรรม รวมไปถึงการซ่อมแซมครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมสำหรับเข้าอยู่ใหม่ด้วยเช่นกัน
5.สุขอนามัยและความสะอาด
เมื่อขั้นตอนทุกอย่างได้รับการตรวจสอบและตรงตามความต้องการของผู้ซื้อแล้ว ขั้นตอนสำคัญอีกอย่างคือการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ซึ่งเมื่อเป็นบ้านมือสอง ก็ควรที่จะพ่วงเรื่องการฆ่าเชื้อ หรือประเมิณสุขอนามัยอย่างครบถ้วนอีกครั้ง เพื่อทำให้บ้านเก่า กลายเป็นบ้านใหม่ เต็มประสิทธิภาพและพร้อมเข้าอยู่มากขึ้นนั่นเอง
bTaskee ขอให้การเลือกซื้อ บ้านมือสอง ของทุกคน ได้บ้านที่ตรงตามความต้องการ และคุ้มค่าที่สุด ตามคำแนะนำของเรา และอย่าลืมให้เราเป็นผู้ดูแลขั้นตอนสุดท้ายในการทำความสะอาดก่อนเข้าอยู่กันด้วยนะ