หลายท่านคงทราบดีว่าในห้องน้ำเองก็มีพรมเช่นกัน แต่ก็คงไม่ได้ใส่ใจละเอียดขนาดที่ว่าตรงขอบชักโครกต้องใช้พรมทรงโค้ง หรือพรมเช็ดเท้าในห้องน้ำต้องใช้วัสดุแบบนี้ วันนี้ทาง bTaskee จะมาแนะนำ พรมห้องน้ำ ประเภทต่างๆ ให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ
เลือกแบบที่ทำความสะอาดง่าย
เพราะพรมห้องน้ำเป็นเครื่องใช้ในบ้านที่เราใช้ทุกวัน แน่นอนว่ามักจะเกิดความสกปรกได้ง่าย ดังนั้นเราควรเลือกพรมที่ง่ายต่อการทำึวามสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อโรคที่สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ง่ายนั่นเองค่ะ
แบบที่ป้องกันคราบและไม่เปื้อนง่าย
ปัญหาใหญ่ ๆ ของพรมชักโครกคือการที่ต้องทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ ถ้าหากเราเลือกซื้อพรมชักโครกที่ไม่เป็นคราบง่ายก็จะช่วยลดจำนวนที่ต้องซักล้างต่อเดือนได้ แนะนำว่าควรเลือกพรมที่มีสีเข้มเพราะจะทำให้ดูสกปรกน้อยลง หลีกเลี่ยงพรมสีขาวเพราะจะดูแลรักษาได้ยากและเลอะง่าย หรืออาจเลือกซื้อพรมชักโครกที่ทำมาจากวัสดุที่ไม่เปื้อนง่ายและมีความสามารถในการช่วยดักฝุ่นเพื่อไม่ต้องทำความสะอาดห้องน้ำบ่อย
แบบที่สามารถซักล้างและผึ่งแห้งได้ง่าย
คนส่วนใหญ่จะทำความสะอาดพรมชักโครกประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยมีเวลาซักพรมและไม่อยากเพิ่มภาระงานบ้านให้กับตนเอง อาจเลือกซื้อพรมชักโครกประเภทที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายที่สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า หรือประเภทที่เพียงตากแดดแล้วผึ่งให้แห้งก็สะอาดแล้วนำมาใช้ได้ต่อทันที
เลือกแบบที่สามารถกันลื่นได้
พื้นของห้องน้ำจะเปียกอยู่เสมอและมีโอกาสที่จะทำให้ลื่นและหกล้มหากเดินไม่ระวัง บ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็กควรระวังเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้การใช้พรมชักโครกที่ช่วยทำให้โอกาสที่จะลื่นน้อยลง แต่ก็ควรเลือกซื้อพรมแบบที่สามารถยึดเกาะกับพื้นได้ดีเพื่อทำให้การป้องกันการลื่นนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เลือกแบบคำนึงถึงวัสดุ
ควรเลือกวัสดุที่คุณภาพดีและมีประสิทธิภาพมากกว่าพรมปกติเพื่อให้ได้พรมชักโครกที่ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น สามารถกันเชื้อแบคทีเรีย, ซึมซับน้ำได้ดี, แห้งไว เป็นต้น
แบบสามารถกันเชื้อแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นได้
พรมบางยี่ห้อทำมาจากวัสดุหรือมีสารเคลือบที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย เหมาะสำหรับคนที่เป็นกังวลเรื่องความสะอาดของห้องน้ำหรือเป็นภูมิแพ้ แนะนำว่าให้ลองหาซื้อพรมประเภทนี้มาใช้ดูค่ะ นอกจากนี้ยังมีพรมบางรุ่นที่เคลือบสารที่สามารถกำจัดกลิ่นได้ที่เหมาะกับการวางในห้องน้ำที่มีอากาศถ่ายเทน้อยและคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดห้องน้ำและพรมชักโครกบ่อย ๆ ด้วย
แบบสามารถดูดซับน้ำได้ดีและแห้งเร็ว
เราควรเลือกพรมชักโครกที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดีและแห้งได้รวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้พรมเหม็นหืนและทำให้ห้องน้ำเหม็นตามไปด้วย เพราะถ้าใช้พรมชักโครกที่ไม่สามารถดูดซับน้ำได้ดีก็จะทำให้ห้องน้ำเปียกและมีความชื้นสูง ซึ่งสามารถส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ หากใช้พรมชักโครกที่แห้งตัวได้ช้าก็จะทำให้พรมเปียกอยู่ตลอดเวลา อมน้ำและส่งกลิ่นได้ในที่สุดค่ะ
แบบทำมาจากวัสดุชั้นสูง
สำหรับใครที่มีงบในการซื้อสูง อาจเลือกพรมที่ทำมาจากวัสดุชั้นดี มีคุณภาพ และมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าพรมธรรมดา ๆ ยกตัวอย่างเช่น สามารถกำจัดแบคทีเรีย, กำจัดไฟฟ้าสถิต, ป้องกันความร้อน, กำจัดกลิ่น ฯลฯ
เลือกโดยคำนึงถึงความหนา
สำหรับใครที่ชอบเปิดห้องน้ำทิ้งไว้เพื่อระบายอากาศ หรือใช้ประตูแบบเปิดเข้าไปในตัวห้องน้ำ แนะนำให้เลือกใช้พรมชักโครกที่มีขนาดบาง เพราะถ้ามีพรมหนามากเวลาเปิดประตูจะติดทำให้เปิดไม่ออกและส่งผลให้พรมเสียรูปทรงได้ นอกจากนี้พรมที่หนามากเกินไปยังไม่เหมาะกับการใช้ในห้องน้ำเพราะอากาศในห้องน้ำไม่ค่อยมีการถ่ายเททำให้พรมขนาดหนาที่ซึบซับน้ำไว้มากนั้นไม่สามารถแห้งทันได้ การที่พรมอมเช่นนี้ทำให้มีการเพิ่มของแบคทีเรียมากมายและส่งกลิ่นเหม็นอยู่เช่นนั้นจนกว่าเราจะทำความสะอาดนั่นเองค่ะ
เลือกโดยคำนึงถึงเพศ
สำหรับครอบครัวที่มีผู้ชายและเด็ก ควรเลือกพรมชักโครกที่มีช่องว่างและระยะห่างจากตัวชักโครกให้น้อยมากที่สุดเพื่อป้องกันการกระเด็นของปัสสาวะ ซึ่งส่วนใหญ่พรมชักโครกประเภทนี้จะเป็นพรมประเภทแบบบางและค่อนข้างแข็งใครที่ไม่ชอบสัมผัสแบบนั้นก็อาจจะเลือกพรมชักโครกนุ่ม ๆ มาใช้ แต่วางใกล้ชักโครกให้ได้มากที่สุด หรือขยันซักล้างบ่อย ๆ ก็ได้เหมือนกัน
เป็นยังไงบ้างคะ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่พรมในห้องน้ำ แต่ก็ควรจะพิถีพิถันเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งาน เพื่อให้พรมเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง