เคล็ดลับ วางแผนซื้อบ้าน ให้เป๊ะ! ทุกขั้นตอนที่ต้องรู้เพื่อความคุ้มค่าที่สุด

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on linkedin
Share on email
Share
Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on linkedin
Share on email

การซื้อบ้านเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญในชีวิตของหลายคน เพราะมันไม่ได้หมายถึงแค่การมีที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ ตั้งแต่การบริหารการเงิน การเลือกบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการ ไปจนถึงการทำความเข้าใจกับกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง บทความนี้จะพาคุณไปรู้ทุกมุมที่ควรรู้ เพื่อให้การ วางแผนซื้อบ้าน ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น และ คุ้มค่าที่สุด

วางแผนการเงิน ก่อนซื้อบ้าน

วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ

การวางแผนการเงินเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินดาวน์ แต่ต้องคิดถึงทุกเม็ดที่เกี่ยวข้อง ลองเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบรายได้สุทธิในแต่ละเดือน แล้วกันงบสำหรับผ่อนบ้านไม่เกิน 30-40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ตัวเลขนี้จะช่วยให้การใช้จ่ายด้านอื่นยังคงอยู่ในระดับที่สมดุล อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านไม่ได้มีแค่เงินดาวน์ ยังมีค่าธรรมเนียมการโอน ค่าประเมินบ้าน ค่าประกัน ค่าตกแต่ง และ ค่าซ่อมแซมอีกเพียบ ต้องเผื่อเงินสำรองไว้สำหรับเรื่องฉุกเฉิน เช่น รายจ่ายที่อาจเกิดขึ้นหลังย้ายเข้าบ้านใหม่ เช่น ระบบไฟเสีย ท่อรั่ว หรือ การปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ

รู้จักประเภทของบ้านและเลือกรูปแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

บ้านมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือ คอนโดมิเนียม แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองนั่งคิดให้ละเอียดว่าบ้านแบบไหนเหมาะกับคุณ ถ้าต้องการพื้นที่ส่วนตัว มีสวนหน้าบ้าน บ้านเดี่ยวคือคำตอบ แต่ถ้าอยากได้ความสะดวก ไม่ต้องดูแลพื้นที่เยอะ คอนโดน่าจะใช่ อย่าลืมพิจารณาขนาดของบ้านด้วย เช่น มีสมาชิกในครอบครัวกี่คน ต้องการห้องกี่ห้อง ห้องน้ำเพียงพอไหม รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ทำงานที่บ้าน ทำอาหาร หรือ เลี้ยงสัตว์

  • บ้านเดี่ยว: เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่กว้างขวาง
  • ทาวน์โฮม: ทางเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่ยังอยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ
  • คอนโดมิเนียม: เหมาะกับคนที่ชอบอยู่ในเมือง ไม่ต้องการดูแลพื้นที่มาก

ศึกษาทำเลก่อนตัดสินใจ วางแผนซื้อบ้าน

ทำเลเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของบ้านในอนาคต ทำเลที่ดีต้องสะดวกต่อการเดินทาง เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทางด่วน หรือ ถนนสายหลัก การสำรวจสภาพแวดล้อมรอบ ๆ บ้านก็สำคัญ ลองดูว่ามีตลาด ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล หรือ โรงเรียนอยู่ใกล้หรือไม่ หากมีแผนการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้า หรือ ห้างสรรพสินค้าใหม่ นั่นคือข้อดีที่อาจช่วยเพิ่มมูลค่าของบ้านในระยะยาว

นอกจากนี้ ต้องดูเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่ เช่น การมีระบบ CCTV การดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ หากชุมชนรอบข้างดูน่าอยู่ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ และ สบายใจในการใช้ชีวิต

ตรวจสอบประวัติบ้าน และ เจ้าของโครงการ

สำหรับบ้านมือสอง อย่าลืมตรวจเช็กประวัติของบ้าน เช่น สภาพบ้านเดิมมีปัญหาอะไรไหม มีการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ น้ำรั่ว โครงสร้างแตกร้าว หรือ ไฟฟ้าไม่เสถียรหรือเปล่า การจ้างวิศวกร หรือ นักตรวจสอบบ้านมืออาชีพมาช่วยตรวจเช็กจะช่วยให้คุณมองเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่

สำหรับบ้านใหม่ในโครงการ ควรศึกษาเจ้าของโครงการหรือผู้พัฒนา ว่าเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือหรือไม่ มีประวัติการสร้างโครงการล่าช้าหรือเปล่า การอ่านรีวิวจากผู้ซื้อบ้านในโครงการเก่า ๆ หรือ พูดคุยกับคนที่เคยซื้อ จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นก่อนตัดสินใจ

ขอสินเชื่อ วางแผนซื้อบ้าน

เข้าใจกระบวนการขอสินเชื่อก่อนจะ วางแผนซื้อบ้าน

เรื่องเงินกู้ หรือ สินเชื่อบ้านไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเตรียมตัวมาดี เริ่มจากการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของธนาคารหลายแห่ง บางธนาคารอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก หรือ ปลอดดอกเบี้ยในช่วงเวลาหนึ่ง การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง และ เอกสารการเสียภาษี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติเร็วขึ้น

นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบวงเงินที่ธนาคารจะปล่อยกู้ โดยคำนึงถึงรายได้และภาระหนี้สินอื่น ๆ ของคุณ เช่น ค่างวดรถ หรือ หนี้บัตรเครดิต เพื่อประเมินว่าคุณสามารถผ่อนไหวหรือไม่ การคำนวณรายจ่ายล่วงหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว

ตรวจเช็กบ้านก่อนเซ็นสัญญา

ก่อนเซ็นสัญญาซื้อขายบ้าน ต้องตรวจสอบบ้านให้ละเอียดทุกจุด ตั้งแต่โครงสร้างใหญ่ เช่น หลังคา ผนัง ไปจนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น ประตูหน้าต่าง ปลั๊กไฟ และ ระบบประปา ลองเปิดปิดไฟทุกดวง เปิดน้ำทุกก๊อกเพื่อดูแรงดันน้ำ และ การระบาย ถ้าเป็นบ้านมือสองควรถามเจ้าของเดิมว่าเคยมีปัญหาอะไรบ้าง เช่น น้ำรั่ว หรือ ระบบไฟฟ้าเสีย การจ้างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจบ้านก่อนซื้อจะช่วยลดความเสี่ยง และ เพิ่มความมั่นใจ

ทำความเข้าใจสัญญาซื้อขาย

สัญญาซื้อขายบ้านเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องอ่านให้ละเอียด เช่น ราคาซื้อขาย ขอบเขตของพื้นที่บ้าน ค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อ และ ผู้ขายต้องจ่าย รวมถึงเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อกำหนดในสัญญา การปรึกษาทนายจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อย่าลืมเช็กว่าในสัญญามีค่าใช้จ่ายที่แอบแฝง หรือ เงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลหรือไม่

วางแผนระยะยาว

บ้านเป็นการลงทุนที่อยู่กับคุณไปอีกหลายปี การวางแผนในระยะยาวจะช่วยให้คุณไม่เจอปัญหาภายหลัง เช่น การตั้งเป้าหมายการผ่อนชำระว่าควรใช้เวลากี่ปี และ มีเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น การตกงาน หรือ วิกฤตเศรษฐกิจ การทำประกันบ้านยังเป็นตัวช่วยที่ดีในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือ แผ่นดินไหว

ใช้เวลาเปรียบเทียบตัวเลือก

อย่าด่วนตัดสินใจ การซื้อบ้านคือการลงทุนครั้งใหญ่ที่ควรใช้เวลาในการพิจารณา ลองดูบ้านหลาย ๆ หลัง เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และ ถามความคิดเห็นจากคนในครอบครัว หรือ เพื่อนที่มีประสบการณ์ การ วางแผนซื้อบ้าน อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณได้บ้านที่เหมาะสม และ คุ้มค่าที่สุด

ติดตามข่าวสารล่าสุด โปรโมชั่นและเคล็ดลับดีๆที่ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น จาก bTaskee

The application is currently deployed in Thailand Vietnam

download-asker-btaskee-ver-3

Book a home cleaning task
right away

Download, register and experience exciting features only available on bTaskee App – On-demand Home Services