แสงสว่างภายในบ้านนั้นถือเป็นจำเป็นที่ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อหลอดไฟใช้การไปนานๆ ก็ต้องเสื่อมสภาพและหมดอายุการใช้งานไปในที่สุด เราจึงต้องตั้งรับหรือมีความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับหลอดไฟไว้บ้าง วันนี้พี่บีจะมาแนะนำทั้งประเภทของหลอดไฟต่างๆ และการ เปลี่ยนหลอดไฟ ที่ปลอดภัย อยากรู้ว่ามีเกร็ดความรู้อะไรบ้าง มาอ่านกันเลย~
ประเภทของหลอดไฟ
1. หลอดไส้ หลอดไฟชนิดนี้จะให้แสงสว่างเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้ที่เป็นขดลวดทังสเตนข้างในหลอดไฟ ซึ่งการให้แสงสว่างด้วยวิธีนี้จึงทำให้ไส้ของหลอดไฟร้อนจนไหม้ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ไม่นานนัก โดยอยู่ที่ประมาณ 700 – 1000 ชั่วโมง ทำให้ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยกว่าประเภทอื่นๆ
2. หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือเรียกง่ายๆ ก็คือหลอดไฟนีออน โดยการทำงานของหลอดไฟชนิดนี้คือการให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่ตลอด เพื่อไปทำปฏิกิริยากับปรอท และก๊าซอื่นๆ โดยจะปล่อยรังสีความร้อนซึ่งเมื่อกระทบกับสารเรืองแสงที่ฉาบเอาไว้ก็จะปล่อยแสงออกมา ซึ่งหลอดไฟชนิดนี้ก็สามารถใช้งานได้นานกว่าหลอดไส้ แต่การเปลี่ยนหลอดไฟ และการติดตั้งจะมีความยุ่งยากกว่า รวมถึงการกำจัดหลอดไฟชนิดนี้ก็ยากเช่นกัน เพราะมีสารปรอทอยู่ในหลอดไฟด้วย
3. หลอดฟลูคอมแพกต์ออเรสเซนต์ หรือเรียกแบบไทยๆ ง่ายๆ ก็คือหลอดตะเกียบ ซึ่งถูกผลิตออกมาเพื่อทดแทนหลอดไส้ โดยมีอายุการใช้งานที่นานกว่าถึง 10,000 ชั่วโมง ประหยัดมากกว่า และให้แสงสว่างมากกว่า แต่ก็ยังกำจัดได้ยากเพราะมีสารปรอทอยู่ภายในหลอดไฟ ทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟชนิดนี้จึงต้องระมัดระวังไม่ให้แตกนั่นเอง
4. หลอดฮาโลเจน หรือจะเรียกอีกชื่อว่า หลอดไอโอดีนควอตซ์ หลอดไฟชนิดนี้ถูกผลิตออกมาด้วยการเป็นหลอดไส้ที่เติมก๊าซฮาโลเจน ประกอบไปด้วย โบรมีม หรือไอโอดีน ในปริมาณเล็กน้อย จึงทำให้มีความส่องสว่างที่มาก แสงที่เปล่งออกมาไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ใช้กันแพร่หลายในสตูดิโอ โรงละคร แต่ก็สามารถใช้ในห้องทำงานหรือบริเวณมุมอับเพื่อเพิ่มแสงสว่างได้ ซึ่งอายุการใช้งานจะอยู่ที่ 2,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กกว่าหลอดไส้ทั่วไปอีกด้วย
5. หลอด LED ถือได้ว่าเป็นหลอดไฟที่มีความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยการใช้งานที่หลากหลายเช่น ปรับความสว่างของแสงได้ มีหลากหลายสีสัน อีกทั้งยังประหยัดพลังงานไฟฟ้ากว่าหลอดไฟชนิดอื่น และอายุการใช้งานยาวนานกว่านั่นเอง
วิธี เปลี่ยนหลอดไฟ ที่ถูกต้อง
- ปิดการใช้งานไฟฟ้าด้วยการปิดสวิตช์ไฟให้เรียบร้อยก่อน หรือเพื่อความชัวร์ก็สามารถสับคัทเอาท์งดการจ่ายไฟก่อนได้ หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าบริเวณอื่นภายในบ้าน
- ห้ามถอดหลอดไฟออกขณะที่ยังมีความร้อนอยู่ โดยการปล่อยไว้ให้อุณภูมิของหลอดไฟลดลงก่อน จากนั้นค่อยถอดออกมา
- เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเปลี่ยนหลอดไฟโดยการใช้บันได ควรตรวจเช็คให้แน่ใจว่าบันไดมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักได้
- การถอดหลอดไฟออกมาเพื่อเปลี่ยนจะต้องดูว่าขายึดของหลอดไฟเป็นแบบไหน ซึ่งหากเป็นขาทั่วไปให้หมุนทวนเข็มนาฬิกาจนหลุดออกจากตัวล็อกแล้วถอดออก ส่วนขาแบบสปริงให้ดันหลอดไฟขึ้นก่อนจากนั้นหมุนทวนเข็มนาฬิกาจนหลุดออกจากตัวล็อกเช่นกัน
- ให้เปลี่ยนหลอดไฟด้วยการใช้หลอดไฟที่มีกำลังไฟเท่าเดิม จากนั้นใส่กลับเข้าไปด้วยการหมุนตามเข็มนาฬิกาจนเข้าล็อกของขายึด
- เปิดสวิตช์ไฟเพื่อเช็คว่าใช้งานได้ปกติ
- นำกล่องที่ใส่หลอดไฟอันใหม่มาเก็บหลอดไฟอันเก่าหลังจากเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นนำไปทิ้งให้เหมาะสมเรียบร้อยตามการจำแนกประเภทขยะที่ถูกต้อง
เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน กับวิธีการเลือกหลอดไฟแต่ละประเภท และวิธีการเปลี่ยนหลอดไฟจากพี่บีที่ได้นำมาแนะนำกัน แต่ถ้าหากใครที่กลัวว่าการเปลี่ยนหลอดไฟจะเป็นเรื่องยากอยู่ ก็สามารถเรียกใช้บริการทำความสะอาดจากแอปฯ bTaskee ที่มีทั้งบรืการแม่บ้านทำความสะอาดรายวัน และเปลี่ยนหลอดไฟโดยช่างมืออาชีพที่จะทำให้งานบ้านเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก โหลดเลย bTaskee