ในเมื่อเมืองไทยเป็นประเทศเขตเมืองร้อน แล้วถ้าอยู่แบบร้อนๆ ไม่มีแอร์จะทำอย่างไรดี ไม่ว่าจะเป็นเปิดแอร์ไม่ติดทั้งๆ ที่เซนเซอร์ก็ทำงาน หรือเปิดแอร์แล้วเครื่องไม่ตอบสนองอะไรเลย แอร์ไม่เย็นบ้างหรืออยู่ดีๆ แอร์ก็ดับไปเองดื้อๆ บางทีเราเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่ในวันนี้ bTaskee จะมาบอกต่อถึงสาเหตุของการเปิดแอร์ไม่ติดและวิธีแก้ไขให้กับทุกคนเอง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ง่าย ๆ
สาเหตุหลัก ๆ ของการเปิดแอร์ไม่ติด
แบบที่ 1 เปิดแอร์ไม่ติด แต่รีโมทติด
- ฟิวส์ขาด
- เปิดติด แต่ไฟบนแอร์ไม่กะพริบ
- สายไฟหลวมหรือชำรุด
- แอร์ดับเองด้วยปัจจัยจากสภาพภูมิอากาศ เช่นไฟตก ไฟดับ ฟ้าผ่า ฝนตกหนัก เป็นต้น
แบบที่ 2 เปิดแอร์และรีโมทไม่ติด
- ถ่านรีโมทหมด
- เซนเซอร์รับสัญญาณเสียหรือสกปรก
- แผงควบคุมทำงานเสีย
วิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแบบเบื้องต้น
- เหมาะสำหรับคนที่พอจะมีความรุ้เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือมีอุปกรณ์ป้องกัน ส่วนสำหรับใครที่ไม่มีความรู้ ไม่เคยแตะต้อง หรือไม่มีอุปกรณ์ ขอให้มีช่างผู้เชี่ยวชาญมาทำหน้าที่ตรงนี้แทนจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ใช้งานเอง
ในเมื่อรู้ถึงสาเหตุกันคร่าว ๆ แล้วว่าปัจจัยที่ทำให้เปิดแอร์ไม่ติดเกิดจากอะไร และเราควรทำอะไรอย่างไรต่อจากนี้ ถ้าพบว่าสาเหตุมาจากระบบไฟฟ้า หรือ ระบบควบคุมการทำงานของแอร์ที่ทำให้ แอร์เปิดไม่ติดรีโมทติด
- วัดด้วยเครื่องมือวัดไฟฟ้าว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลเข้ามาในระบบหรือตัวเครื่องแอร์ที่เราจะต้องทำการสัมผัสหรือไม่
- ทำการตัดระบบไฟฟ้าโดยการสับสวิตซ์คัตเอาท์ลงเพื่อเป็นการป้องกันตัวเราจากกระแสไฟฟ้า
- ปัญหาที่มักจะพบเจอเมื่อเปิดดูแผงแอร์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นในเรื่องของ ฟิวส์ขาด เนื่องจากฟิวส์มีหน้าที่คอยตัดไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ตัวอื่น ๆ อย่าลืมที่จะตรวจดูฟิวส์ หากชำรุดก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนได้
- ดูในเรื่องของสายไฟหลวมหรือสายไฟขาดเพื่อหาตำแหน่งของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ถ้าเป็นในเรื่องของแอร์เปิดไม่ติดไฟกะพริบ ให้ลองเอาเบรคเกอร์ที่ควบคุมแอร์ลงสักประมาณ 20 – 45 นาที แล้วค่อยทำการเปิดใหม่และทดสอบอีกครั้ง
- หากลองแล้วยังพบว่า แอร์เปิดไม่ติดไฟกะพริบ อยู่เหมือนเดิม ก็ให้มาดูที่ตัวเซ็นเซอร์ป้องกันการเกิดน้ำแข็ง หรือที่เรียกกันว่า เซ็นเซอร์คอยล์เย็นว่าชำรุดหรือไม่ ซึ่งเราสามารถหาซื้อมาเปลี่ยนเองได้เช่นกัน โดยสามารถดูวิธีการเปลี่ยนโดยให้เปิดดูควบคู่ไปกับช่อง Youtube ที่เกี่ยวกับช่างซ่อมแอร์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เห็นภาพ และทำตามไปพร้อม ๆ กันได้ครับ
ถ้าพบว่าสาเหตุของแอร์เปิดไม่ติดมาจากรีโมทใช้งานไม่ได้หรือไม่ทำงาน
- ให้ทำการลองเปลี่ยนถ่านรีโมทใหม่ เพราะบางทีอาจจะแค่ถ่านหมดเฉย ๆ ก็ได้
- ตัวรับสัญญาณเสีย หรือ ตัวรับสัญญาณสกปรก อาจทำให้ เปิดแอร์ไม่ติด ให้ลองทำความสะอาดดูก่อน ถ้ายังใช้งานไม่ได้ก็ให้เปลี่ยนตัวรับสัญญาณใหม่
- ตัวแผงควบคุมของรีโมทเสีย ข้อนี้ค่อนข้างต้องใช้ความรู้พื้นฐานในเชิงเทคนิค ถ้าไม่สามารถทำเองได้ แนะนำให้ปรึกษาช่างหรือส่งศูนย์ของแอร์ที่เราได้ทำการซื้อมาเพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
ข้อควรระวัง
- ทำการสับคัตเอ๊าต์ลงเพื่อป้องกันอันตรายกระแสไฟฟ้าที่อาจทำร้ายเราได้
- ควรศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลถึงวิธีการตรวจเช็ก ซ่อมแซม แก้ไข เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ ซึ่งในปัจจุบันเพียงแค่เข้า Google หรือ Youtube เพียงพิมพ์ประโยคง่าย ๆ เช่น แอร์เปิดไม่ติดรีโมทติด ก็มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาในเรื่องนั้น ๆ เยอะแยะมากมาย โดยที่ไม่ต้องมานั่งเปิดหนังสือเล่มหนา ๆ กันอีกแล้วล่ะครับ
- ควรซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน กล่าวคือ มี มอก. หรือสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัย ความประหยัดไฟ ที่สำคัญอย่าลืมดูการใช้กำลังไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ รวมถึงคอยหมั่นตรวจเช็กเครื่องใช้ไฟฟ้าเสมอ เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้
- ในระหว่างการตรวจเช็กหรือแก้ไขเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แนะนำว่าควรให้มีคนอยู่ด้วยอีก 1 คน เพื่อที่ช่วยเหลือได้ทันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟดูด เป็นต้น แต่อาจจะต้องเป็นคนที่สามารถตั้งสติได้ดีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนะครับ
- ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตั้งสติและทำการตัดระบบไฟ หากเกิดไฟไหม้ลุกติดขึ้นมา ห้ามสาดน้ำเด็ดขาด เพราะอาจจะยิ่งทำให้ไฟลุกลามไปได้เร็วขึ้น รวมถึงอาจถูกไฟดูดได้ ส่วนถ้ากรณีคนถูกไฟดูด ให้อีกคนตั้งสติเช่นกันโดยห้ามตกใจไปสัมผัสตัวคนที่กำลังถูกไฟดูดโดยเด็ดขาด แต่ให้ไปทำการตัดกระแสไฟให้เรียบร้อยก่อน จึงค่อยมาช่วยเหลือกันอีกที และขอให้เรียกรถพยาบาลเพื่อนำตัวส่งตอเข้าการรักษา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับแนวทางการการตรวจเช็คเมื่อเปิดแอร์ไม่ติดของ bTaskee ที่นำมาเสนอในครั้งนี้ สำหรับใครที่สามารถทำได้ มีความรู้ด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือมีอุปกรณืป้องกันตัวจากอนตรายในการทำงานตรวจเช็ก ก็สามารถทำได้พร้อมกับศึกษาจาก Google และ Youtube ได้เลยนะครับ ส่วนสำหรับใครที่ไม่มีความรู้ ไม่กล้าแตะต้องหรือกลัวจะเกิดอันตรายจากการตรวจเช็ก สามารถเรียกใช้บริการล้างแอร์ของ bTaskee ได้เลยนะครับ เพราะช่างของเราก็มีความรู้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับแอร์ได้ โดยบริการเริ่มต้นเพียงแค่ 600 บาทเท่านั้น โดยสามารถจองได้ทางแอปพลิเคชันของเราได้เลยที่ช่องทาง IOS และ Android นะครับ