โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) เป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างก็รู้จักกับสิ่งนี้ดี โดยเฉพาะกับเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน หรือเหล่าผู้ที่ชอบทำขนมที่จะเรียกพวกมันว่าผงฟู ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากในการทำอาหารและทำขนม แต่ว่า ความจริงแล้วมันยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายจนคาดไม่ถึง ในบทความนี้ bTaskee จะไปดูกันดีกว่าว่า เบกกิ้งโซดาทําอะไรได้บ้าง และมีวิธีใช้อย่างไร ในเรื่องของการทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน
สารพัดประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาทําอะไรได้บ้าง
1. ช่วยให้ช่องปากสะอาด
เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก โดยผลวิจัยพบว่าการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของเบกกิ้งโซดา อาจช่วยลดการเกิดคราบพลัค ซึ่งเป็นแผ่นคราบจุลินทรีย์จากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้ โดยหากมีคราบพลัคที่ผิวฟันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุและโรคเหงือกนั่นเอง
2. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
เบกกิ้งโซดาสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกาย หรือกลิ่นเหม็นตกค้างในครัว โดยปกติแล้ว เหงื่อของเราจะไม่มีกลิ่น แต่เมื่อเหงื่อผสมกับแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังจะทำให้เกิดกลิ่นตัว เนื่องจากแบคทีเรียจะเปลี่ยนให้เหงื่อมีค่าเป็นกรด เบกกิ้งโซดาที่มีค่าเป็นด่าง จึงเป็นสารระงับกลิ่นกายที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นกาย เพราะช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดด่างที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้
3. ขจัดสิ่งสกปรกได้ดี
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาอีกข้อหนึ่ง คือเป็นสารทำความสะอาด โดยนำมาใช้ล้างผักและผลไม้ เพื่อกำจัดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง และใช้ขจัดคราบสกปรกฝังแน่น ไม่ว่าจะเป็นคราบบนเสื้อผ้า เครื่องครัว หรือสุขภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยขจัดคราบสกปรก และลดการสะสมของแบคทีเรีย หรือเชื้อราได้เป็นอย่างมาก
4. ลดอาการระคายเคืองของผิว
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาต่อผิวหนังมีหลายประการ โดยช่วยบรรเทาอาการคัน ผื่นแดง และแสบร้อนผิวจากสาเหตุต่าง ๆ ได้แก่
- การถูกแมลงกัดต่อย
- การแพ้ที่เกิดจากต้นไม้มีพิษ
- โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)
- บรรเทาอาการระคายเคืองจากโรคอื่น ๆ เช่น ริดสีดวงทวาร และโรคอีสุกอีใส
5. บรรเทาอาการปวดเข่าจากข้อเสื่อม
ในทางการแพทย์มีการใช้เบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นยาในการรักษาอาการข้อเสื่อม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งเปรียบเทียบการฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนต กับการฉีดยาเมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone) เพื่อบรรเทาอาการข้อเสื่อม พบว่าการฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนตต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยให้อาการปวดของผู้ป่วยดีขึ้น
6. เบกกิ้งโซดาช่วยในการทำอาหารและขนม
อย่างที่หลายคนรู้จักกับเบกกิ้งโซดา หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตในการใช้ทำความสะอาดแล้ว สำหรับตัวมันเองนั้นยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมลงไปในขนมและอาหารได้อีกด้วย โดยเป็นตัวช่วยให้ขนมของเราขึ้นฟูสวยงาม หรือช่วยในการหมักเนื้อสัตว์ ทําให้เนื้อสัตว์นั้นมีความนุ่มเด้งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้ในการล้างสารพิษ หรือสารตกค้างในผักผลไม้ได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับโซเดียมในร่างกายหรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เบกกิ้งโซดา รวมทั้งผู้ที่ใช้ยารักษาโรคอื่นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เช่นกัน เพราะเบกกิ้งโซดาอาจส่งผลต่อการดูดซึมของยา โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Blood Thinners) และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในผู้ที่ใช้ยารักษาโรคบางชนิด ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย เป็นต้น
นอกจากนี้ การรับประทานเบกกิ้งโซดามากเกินไป หรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและนำไปสู่โรคต่าง ๆ ดังนี้
- กัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน (Enamel) หากผสมเบกกิ้งโซดากับกรดเพื่อฟอกฟันขาวด้วยตัวเอง
- ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- โรคหัวใจ
- ปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทและสมอง
- อาการชักและไตวาย เนื่องจากเบกกิ้งโซดาประกอบด้วยโซเดียมสูง
- ภาวะไม่สมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย (Electrolyte Imbalances)
- ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia)
แม้ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาจะมีมากกว่าแค่เป็นวัตถุดิบในครัวเรือน แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน โดยทั่วไป เบกกิ้งโซดาที่เปิดใช้แล้วสามารถเก็บได้ 6 เดือนถึง 1 ปี โดยเก็บในที่แห้งและเย็น และควรตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้งก่อนนำมาใช้ หากมีอาการหายใจลำบากและหัวใจเต้นเร็วผิดปกติหลังใช้เบกกิ้งโซดา ควรไปพบแพทย์ทันทีด้วยนะ
เบกกิ้งโซดาทําอะไรได้บ้าง? รวมวิธีการทำความสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดา
1. ทำความสะอาดและดับกลิ่นที่นอน
หลังใช้เครื่องดูดฝุ่นกำจัดเศษฝุ่นบนที่นอนแล้ว ให้นำเบกกิ้งโซดากับน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบมาผสมกัน แล้วนำไปโรยบนที่นอน ใช้แปรงหัวอ่อนนุ่มขัดเบา ๆ ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นนำเครื่องดูดทำความสะอาดผงเบกกิ้งโซดาออกอีกครั้ง
2. ซักผ้าขาวให้ขาวเหมือนใหม่ แม้สวมใส่มานาน
ใช่ว่าเสื้อผ้าสีขาวที่สวมใส่ไปนาน ๆ จะยังดูขาวเหมือนใหม่เสมอไป มากำจัดคราบหมองออกจากผ้าขาวด้วยเบกกิ้งโซดากัน โดยให้นำผ้าขาวไปแช่ในน้ำอุ่น 4 ลิตร ที่ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง นาน 8 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ซักทำความสะอาดตามปกติ แต่ถ้าคราบยังไม่หายไป หรือมีคราบหนักที่กำจัดยาก แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดาซักผ้าซ้ำอีกครั้งตามขั้นตอนเดิม
3. ขัดคราบน้ำบนม่านอาบน้ำ
ผสมเบกกิ้งโซดากับสบู่เหลวอาบน้ำให้เป็นเนื้อสครับข้น ๆ จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบส่วนผสม แล้วขัดลงบนม่านอาบน้ำ หรือจะใช้ขัดกระจกกั้นห้องน้ำด้วยก็ได้เช่นกัน ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อกำจัดคราบน้ำหมอง ๆ ให้หมดไป
4. ขัดล้างเครื่องครัวให้เหมือนใหม่
เทเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำยาล้างจาน เพื่อล้างเครื่องครัวให้สะอาด และเช็ดให้แห้งก่อน จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาลงไปบนเครื่องครัว ใช้ฟองน้ำขัด ๆ ถู ๆ ให้คราบอาหารเก่าและรอยไหม้หลุดออก ลงมือล้างออกอีกครั้ง เครื่องครัวก็จะกลับมาเงาวับเหมือนใหม่
5. ทำความสะอาดเตาอบ
เมื่อเตาอบเย็นตัวลงแล้ว ให้โรยเบกกิ้งโซดาเข้าไปในเตาอบ จากนั้นพรมน้ำตามไป แล้วป้ายให้ทั่วโดยเฉพาะตรงที่มีคราบเกรอะกรัง ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นใช้ฟองน้ำขัดแล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดเพื่อทำความสะอาดตามอีกครั้ง
6. ดับไฟไหม้บนกระทะ ขณะทำอาหาร
ถ้าในระหว่างที่กำลังผัด ๆ ทอด ๆ อยู่นั้นเกิดมีประกายไฟลามมาติดที่ในกระทะ และลุกเป็นลูกไฟใหญ่ ให้ตั้งสติแล้วนำฝาหม้อมาปิดให้สนิท แต่ถ้าไฟยังไม่ดับ ก็ให้กำเบกกิ้งโซดาแล้วสาดลงไป ไฟก็จะอ่อนกำลังลง จากนั้นก็ปิดแก๊สให้เรียบร้อย
7. ล้างผักและผลไม้สะอาดปราศจากสารเคมีตกค้าง
ล้างผักผลไม้ให้มั่นใจว่าไร้สารเคมีตกค้างนั้นทำได้ไม่ยาก แค่โรยเบกกิ้งโซดาลงบนผักและผลไม้ในระหว่างที่กำลังล้าง ขัดถูอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้ผักและผลไม้ช้ำ แล้วตบท้ายโดยนำไปล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
8. ลบรอยขีดเขียนดินสอสีเทียนบนผนัง
จะลบรอยขีดเขียนจากดินสอสีเทียนบนผนังให้หายไป ทำได้ด้วยการนำผ้าเปียกหมาด ๆ ชุบลงในเบกกิ้งโซดา แล้วค่อยขัดลงบนรอยดินสอสีเหล่านั้นให้จางหายไป กลายเป็นวิธีลบแบบง่ายไม่ต้องลงทุนทาสีใหม่ก็ได้
9. ทะลวงท่อตัน หมดปัญหาน้ำท่วมขัง
เบกกิ้งโซดายังช่วยแก้ปัญหาท่อตันได้ เริ่มจากราดน้ำต้มสุกลงในท่อตัน จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาลงไป 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง และน้ำเปล่าอีก 1 ถ้วยตวง ปิดฝาท่อทิ้งไว้ 5 ถึง 10 นาที แล้วราดน้ำสะอาดลงในท่อเพื่อกำจัดคราบอุดตันให้หลุดออกไป
10. ฆ่าเชื้อราที่ต้นไม้
อีกหนึ่งวิธีการดูแลรักษาต้นไม้ ด้วยการเทเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำเปล่า 1 แกลลอน แล้วคนจนผสมเข้ากันดี จากนั้นนำไปรดต้นไม้ หรือฉีดพ่นตามใบและลำต้นที่มีเชื้อราเกาะอยู่
สรุป
เห็นกันแล้วว่าเบกกิ้งโซดาทําอะไรได้บ้าง เรียกได้ว่าเจ้าผงฟูอันนี้ มีประโยชน์อย่างมหาศาล ใช้ได้ทั้งในงานครัวและการทำความสะอาด ซึ่งโดยเฉพาะการทำความสะอาดนี่แหละ ที่เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะขจัดได้ทั้งคราบที่ฝังแน่นและกลิ่นตกค้าง ทำให้งานทำความสะอาดของเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านนั้นง่ายดายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วยนั่นเอง สุดยอดเลยจริง ๆ
แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาในการทำความสะอาดบ้าน และต้องการหาบริษัททำความสะอาดมา เพื่อใช้บริการทำความสะอาด bTaskee เราสามารถตามหาแม่บ้านที่มีประสบการณ์ให้คุณได้ภายใน 60 วินาที ปัญหางานบ้านจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยให้งานยาก ๆ เหล่านั้นเป็นแม่บ้านออนไลน์จากทาง bTaskee เพื่อที่จะให้คุณมีเวลาพักผ่อน และสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้นนั่นเอง