แนะนำเทคนิคการ นวด ตัวเองง่าย ๆ ไม่ง้อสปา

ใครว่าการ นวด ต้องไปร้านสปาหรูๆ เท่านั้น? จริงๆ แล้วเราสามารถนวดตัวเองได้ที่บ้านแบบสบายๆ ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไม่ต้องนัดหมาย ไม่ต้องรอคิว แถมยังทำได้ทุกเมื่อที่อยากผ่อนคลาย 

วันนี้เรามาดูกันว่าการนวดตัวเองแต่ละจุดในร่างกายนั้นมีข้อดีและข้อควรระวังอะไรบ้าง พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย!

นวด ศีรษะ สมองโล่ง อารมณ์ดี๊ดี

เริ่มต้นกันที่ส่วนบนสุดของร่างกายกันก่อนเลย นั่นก็คือศีรษะของเรานั่นเอง หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน กลับบ้านมาแล้วได้นวดหัวสักหน่อย น่าจะช่วยให้หายเหนื่อยได้ไม่น้อยเลยล่ะ

• ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างวางบนหนังศีรษะ
• ค่อยๆ ขยับเป็นวงกลมเบาๆ ที่จุด “ไป๋หุย” (บริเวณกลางกระหม่อม)
• ไล่จากหน้าผากไปจนถึงท้ายทอย ผ่านจุด “เฟิงฉือ” (บริเวณขมับ)
• นวดบริเวณจุด “อิ้งเซียง” (ใต้คิ้วเหนือหัวตา)
• ทำซ้ำประมาณ 5-10 นาที

การนวดศีรษะนั้นช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการปวดหัว และยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการกดจุด “ไป๋หุย” ที่ช่วยบำรุงสมองและความจำ

ข้อควรระวัง: อย่านวดแรงเกินไปเพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ และถ้ามีบาดแผลหรือรอยช้ำบนศีรษะก็ควรหลีกเลี่ยงบริเวณนั้นไปก่อน นอกจากนี้ หากมีอาการปวดศีรษะรุนแรงผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะทำการนวดด้วยตัวเอง

นวด ใบหน้า สวยใสไร้ริ้วรอย

ต่อกันที่ใบหน้ากันบ้าง ใครที่ชอบทำสีหน้าเครียดๆ ตลอดเวลาหรือจ้องหน้าจอนานๆ ล่ะก็ ต้องลองนวดหน้าแบบง่ายๆ นี้ดูแล้วล่ะ

• เริ่มจากการใช้นิ้วกลางและนิ้วนางนวดวนเป็นวงกลมเบาๆ บริเวณจุด “ไท้หยาง” (ขมับทั้งสองข้าง)
• ไล่ลงมาที่แก้ม โดยใช้นิ้วมือทั้งสองข้างลูบเบาๆ จากจมูกออกไปด้านข้าง ผ่านจุด “เจียเฉอ” (ใต้โหนกแก้ม)
• นวดบริเวณคางโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกดเบาๆ เป็นจุดๆ ที่จุด “เจี๋ยเหอ” (ใต้ริมฝีปากล่าง)
• นวดรอบๆ ปากโดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางวนเป็นวงกลมเบาๆ ที่จุด “เหรินจง” (ร่องริมฝีปากบน)
• ทำซ้ำแต่ละขั้นตอน 3-5 ครั้ง

การนวดแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวหน้าดูสดใส ลดริ้วรอย และยังช่วยคลายกล้ามเนื้อใบหน้าที่ตึงเครียดได้ด้วย โดยเฉพาะการนวดจุด “ไท้หยาง” ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและความเครียดได้ดี

ข้อควรระวัง: ถ้านวดแรงไปอาจทำให้ผิวหน้าบอบช้ำได้ และถ้ามีสิวหรือผดผื่นขึ้นก็ควรหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณนั้น เพราะอาจทำให้อักเสบมากขึ้น นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดมือและหน้าให้สะอาดก่อนนวดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

นวด คอและบ่า บอกลาออฟฟิศซินโดรม

มาถึงจุดที่คนทำงานออฟฟิศต้องถูกใจแน่นอน นั่นก็คือการนวดคอและบ่านั่นเอง ใครที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันคงรู้ดีว่าอาการปวดคอและบ่านั้นน่ารำคาญแค่ไหน

• ใช้นิ้วโป้งกดเบาๆ ที่จุด “เฟิ่งฉือ” (บริเวณฐานกะโหลกศีรษะด้านหลัง)
• ค่อยๆ ไล่ลงมาที่จุด “เจียนจิ่ง” (จุดบนบ่าที่คอและไหล่บรรจบกัน)
• นวดวนเป็นวงกลมที่จุด “เทียนจง” (กึ่งกลางกระดูกไหปลาร้า)
• ทำซ้ำๆ สัก 5-10 นาที

การนวดแบบนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด ลดอาการปวดเมื่อย และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะการนวดจุด “เจียนจิ่ง” ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดคอและบ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวัง: ต้องระวังไม่นวดแรงเกินไป เพราะบริเวณคอมีเส้นเลือดสำคัญอยู่หลายเส้น ถ้านวดแรงไปอาจทำให้เวียนหัวหรือคลื่นไส้ได้ และถ้ามีอาการปวดรุนแรงหรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการนวดด้วยตัวเอง

นวดแขน มือ และนิ้ว สุดยอดวิธีคลายเมื่อยล้า

ใครที่ต้องพิมพ์งานหรือจับเมาส์ทั้งวัน ต้องลองนวดแขน มือ และนิ้วแบบนี้ดู รับรองว่าจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้เยอะเลย

• เริ่มจากการใช้มืออีกข้างนวดวนเป็นวงกลมเบาๆ จากข้อมือไปจนถึงต้นแขน ผ่านจุด “เน่ยกวาน” (ด้านในข้อศอก)
• นวดฝ่ามือโดยใช้นิ้วโป้งกดเบาๆ ที่จุด “ลาโกว” (กลางฝ่ามือ)
• นวดนิ้วแต่ละนิ้ว โดยใช้นิ้วโป้งกดเบาๆ แล้วค่อยๆ ไล่ไปจนสุดปลายนิ้ว ผ่านจุด “เจิ่งอิ่ง” (ปลายนิ้ว)
• ทำซ้ำประมาณ 5-10 นาที

การนวดแบบนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการชาและเมื่อยล้า แถมยังช่วยป้องกันอาการนิ้วล็อคได้อีกด้วย โดยเฉพาะการนวดจุด “ลาโกว” ที่ช่วยบำรุงหัวใจและลดความเครียดได้

ข้อควรระวัง: ไม่ควรนวดแรงเกินไปโดยเฉพาะบริเวณข้อมือ เพราะอาจทำให้เอ็นอักเสบได้ และถ้ามีอาการบวมหรือปวดผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการนวดด้วยตัวเอง

นวดหลัง สุดยอดวิธีบรรเทาอาการปวดเมื่อย

ใครที่มีปัญหาปวดหลังบ่อยๆ ต้องลองนวดหลังด้วยตัวเองแบบนี้ดู อาจจะดูยากหน่อย แต่พอทำเป็นแล้วจะรู้สึกดีมากๆ เลย

• ใช้ลูกเทนนิสหรือลูกบอลยางขนาดเล็กวางไว้ระหว่างหลังกับผนัง
• ค่อยๆ ขยับตัวขึ้นลงช้าๆ ให้ลูกบอลกดนวดไปตามแนวกระดูกสันหลัง ผ่านจุด “เสินจู” (กลางหลังระหว่างกระดูกสันหลัง)

• หรือจะใช้วิธีนอนทับลูกบอลแล้วค่อยๆ กลิ้งไปมาก็ได้ โดยเน้นบริเวณจุด “เหวยจง” (กลางหลังส่วนล่าง)
• ใช้มือทั้งสองข้างนวดบริเวณเอวเป็นวงกลม ผ่านจุด “เสินซู” (บริเวณเอวด้านข้าง)
• ทำซ้ำประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย

การนวดแบบนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อหลังที่ตึงเครียด ลดอาการปวดเมื่อย และยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีมาก โดยเฉพาะการนวดจุด “เหวยจง” ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวัง: ต้องระวังไม่กดแรงเกินไป โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง และถ้ารู้สึกเจ็บมากๆ ก็ควรหยุดทันที

นวดขา เท้า และฝ่าเท้า เคล็ดลับผ่อนคลายทั้งร่างกาย

มาถึงส่วนสุดท้ายของร่างกายกันแล้ว นั่นก็คือขา เท้า และฝ่าเท้า ส่วนนี้สำคัญมากๆ เพราะต้องรับน้ำหนักตัวเราทั้งวัน การนวดส่วนนี้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ทั้งร่างกายเลยทีเดียว

• เริ่มจากนวดต้นขาด้านหน้า โดยใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างนวดวนเป็นวงกลม ผ่านจุด “ฝู่ถู” (กลางต้นขาด้านหน้า)
• นวดน่องโดยใช้นิ้วโป้งกดเป็นเส้นยาวจากข้อเท้าขึ้นไปถึงหัวเข่า ผ่านจุด “ซานอินเจียว” (เหนือตาตุ่มด้านใน)
• นวดรอบๆ ข้อเท้าเป็นวงกลม เน้นที่จุด “ไท่ชง” (หน้าตาตุ่มด้านนอก)
• ใช้นิ้วโป้งกดและคลึงบริเวณฝ่าเท้า โดยเฉพาะจุด “ยงเฉวียน” (กลางฝ่าเท้า)
• นวดนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว โดยใช้นิ้วมือบีบเบาๆ และดึงเล็กน้อย
• ทำซ้ำประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย

การนวดส่วนนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการบวมและเมื่อยล้า และยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย โดยเฉพาะการนวดจุด “ยงเฉวียน” ที่เป็นจุดรวมพลังของร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและมีพลัง

ข้อควรระวัง: สำหรับคนที่เป็นเบาหวานหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดที่ขา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการนวด และถ้ารู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวระหว่างนวด ให้หยุดทันที

สรุป

จะเห็นได้ว่าการนวดตัวเองนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

แต่ก็อย่าลืมนะว่า การนวดตัวเองนั้นไม่ใช่ยาวิเศษที่จะรักษาทุกอาการได้ ถ้ามีอาการผิดปกติหรือเจ็บปวดรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมฟังเสียงร่างกายของตัวเองด้วย ถ้ารู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บขณะนวด ให้หยุดทันที