จะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่แปลกหากใครจะตื่นเต้นเสียจนนอนไม่หลับ แต่ก็อย่าลืมที่จะจัดเตรียมของย้ายบ้านให้เป็นระเบียบ เพื่อให้การขนย้ายนั้นราบรื่นไร้ปัญหาด้วยล่ะ ซึ่งหากใครไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไง วันนี้ bTaskee จะมาแนะนำวิธีการจัดของย้ายบ้านยังไงให้เป็นระเบียบ พร้อมทั้งสิ่งที่จะต้องทำเวลาย้ายเข้าบ้านใหม่ให้เอง
จัดของอย่างไรให้เป็นระเบียบ ย้ายเข้าได้ง่าย
ย้ายเข้าบ้านใหม่ ต้องใช้ทุกพื้นที่ว่างให้คุ้มค่า
เพราะสิ่งของทุกชิ้นมีค่า ทำให้การย้ายเข้าบ้านใหม่จึงต้องใช้ทุกพื้นที่อย่างเป็นประโยชน์ และเมื่อเราได้จัดสิ่งของบางชิ้นลงกล่องแล้วอาจยังเหลือพื้นที่ว่างด้านในอยู่ คุณสามารถนำสิ่งบางอย่างเช่น รองเท้าผ้าใบ หมวก หรือกระเป๋าถือใบเล็ก ๆ ใส่ลงไปเพิ่มให้เต็มพื้นที่ได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันของใช้ไม่ให้เสียรูปทรงจากการวางทับกันแล้ว ยังได้พื้นที่เก็บของเพิ่มอีกตั้งหลายชิ้นอีกด้วย
โดยเฉพาะของจำพวกหม้อ กระทะไฟฟ้า หรือกะละมังสารพัดไซซ์ ก็ล้วนแต่มีพื้นที่ด้านในว่างเหลืออยู่ ดังนั้นเราสามารถหยิบของใช้ชิ้นเล็ก ๆ ในครัวที่อยู่ใกล้กันใส่ลงไปด้วย เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องรื้อออกมาจัดใหม่ ก็สามารถหยิบมาวางได้อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องนั่งหาให้วุ่นวาย เพราะเป็นของใช้ในหมวดเดียวกัน แถมวิธีนี้ยังช่วยประหยัดกล่องใส่ของได้ไปในตัวอีกด้วย
ถ้าหากต้องการขนย้ายกระเป๋าเดินทางไปด้วยทั้งที แทนที่จะนำเสื้อผ้าหรือของใช้จัดลงไปตามปกติเหมือนเวลาออกทริป แนะนำให้ใส่หนังสือลงไปแทนจะดีกว่า เพราะการใส่หนังสือในกล่องลังรวมกัน จะทำให้กล่องรับน้ำหนักมากและขนย้ายได้ยาก บางทีเห็นกล่องไม่ใหญ่ แต่ยกแทบไม่ขึ้นเลยทีเดียว การใช้กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากที่แข็งแรงจึงเหมาะกว่านั่นเอง
ซีลล็อคด้วยพลาสติก ไม่ต้องรื้อจัดใหม่ให้ยุ่งยาก
ใครที่มีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ แล้วกำลังคิดว่าจะเอามันออกมาพับ เพื่อขนย้ายเข้าบ้านใหม่แล้วล่ะก็ จริง ๆ แล้วสามารถจัดการได้โดยง่าย ด้วยการรวบตรงส่วนไม้แขวนให้ติดกัน และมัดด้วยยาง หรือเชือก จากนั้นให้นำถุงพลาสติกใบใหญ่มาห่อทับ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดระยะเวลาการแพ็คเสื้อผ้าตอนย้ายบ้านไปมาก แถมพอถึงสถานที่ใหม่ก็แค่จับแขวนใส่ตู้ แกะเชือกแกะถุงออกก็พร้อมใช้เหมือนเดิม
และหากลังเก็บของของเราไม่พอก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะของหลาย ๆ ประเภท อย่างเอกสาร ของเล่น หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสามารถวางใส่ตะกร้า กะละมัง หรือภาชนะขนาดใหญ่ที่มีอยู่แทนได้ และแม้จะไม่มีฝาปิด ก็สามารถใช้ตัวช่วยอย่างพลาสติกแรป หรือถุงพลาสติกใบใหญ่มาห่อคลุมไว้ หมดห่วงเรื่องของหล่นหายระหว่างขนย้ายเข้าบ้านใหม่ไปได้เลย
นอกจากนั้น ของใช้บางประเภทที่อยู่ในกล่อง หรือภาชนะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องรื้อออกมาจัดลงในกล่องใบใหม่ แต่ให้ตรวจสอบความเรียบร้อย และแพ็คแต่ละกล่องที่บรรจุของเหล่านั้นให้แน่นหนาด้วยการห่อด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันไม่ให้ของด้านในเสียหาย
ป้องกันความเสียหาย ขณะย้ายเข้าบ้านใหม่ด้วยของใช้ภายในบ้าน
ของใช้ประเภทแก้ว หรือเซรามิก ที่มีความบอบบางสูง และมีโอกาสที่จะแตกหักได้ง่ายจนต้องใช้ตัวช่วยมาห่อทับด้านนอก เพื่อป้องกันการแตกเสียหาย และนอกจากกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือบับเบิ้ลกันกระแทกที่ใช้เสร็จแล้วก็อาจเหลือเป็นขยะนั้น เสื้อผ้าที่มีอยู่เอง ก็สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนกัน ทั้งผ้าขนหนู เสื้อ กางเกง ก็สามารถนำมาใช้ห่อด้านนอก จับยัดด้านใน หรือวางคั่นของใช้แต่ละชิ้นก็ได้ เป็นการช่วยลดทั้งค่าใช้จ่าย และขยะหลังเสร็จงานที่ดีเลย
ซึ่งการนำเสื้อผ้าและข้าวของในบ้านมาใช้เป็นวัสดุห่อกันกระแทกด้านนอกนั้น นของมีคมก็เป็นอีกอย่างที่สามารถนำวิธีนี้มาแพ็คขนย้ายเข้าบ้านใหม่ได้เช่นกัน ทั้งอุปกรณ์ครัว อุปกรณ์งานฝีมือ หรืองานช่าง รวมไปถึงยังสามารถใช้ถุงมือ หรือเศษผ้าที่อยู่ในห้องเดียวกันมาแพ็คได้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดข้าวของหลังขนย้าย
นอกจากจะจัดและแพ็คของชิ้นใหญ่ ๆ ให้แน่นหนาเรียบร้อยดีแล้ว ก็อย่าลืมใส่ใจกับของชิ้นเล็ก ๆ อย่างเมคอัพสารพัดชิ้น รวมทั้งสกินแคร์ และของใช้ส่วนตัวที่เป็นของเหลวด้วย สำหรับเมคอัพต่าง ๆ ที่เป็นตลับ สามารถใช้เป็นสำลีมาวางทับด้านบน เพื่อลดการกระทบกระเทือน ส่วนของใช้ที่เป็นขวดก็แค่ฉีกพลาสติกแรปชิ้นเล็ก ๆ มาปิดปากขวดด้านในก่อนปิดฝาทับลงไปเพื่อทำการขนย้ายเข้าบ้านใหม่
4 สิ่งที่ต้องทำ เมื่อย้ายเข้าบ้านใหม่
เพราะบ้านใหม่ เป็นสถานที่ที่เราต้องอยู่อาศัยหลังจากย้ายเข้า การตรวจเช็ดและจัดการกับสถานที่แห่งนี้จึงมีความจำเป็นต้องทำก่อนที่คุณจะย้ายเข้าบ้านใหม่อย่างถาวร เพื่อให้การใช้งานบ้านใหม่เป็นได้อย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา และนี่คือ 4 สิ่งต้องทำ เมื่อย้ายเข้าบ้านใหม่ที่เราได้คัดสรรมาให้คุณแล้ว
1. เช็กน้ำไฟภายในบ้านให้เรียบร้อย
ลองเปิดไฟทุกดวงและน้ำประปาภายในบ้านดูว่าเปิดติด และน้ำไหลดีหรือไม่ หากพบว่ามีจุดไหนที่ไฟไม่ติด หรือน้ำไม่ไหล หากเป็นบ้านโครงการ หรือคอนโดที่เพิ่งซื้อใหม่ ก็ควรแจ้งโครงการให้รีบมาซ่อมแซม หากเป็นบ้านเช่า หรืออพาร์ทเมนท์ ก็ควรแจ้งเจ้าของที่พักให้แก้ไขก่อนที่จะทำการย้ายเข้าบ้านใหม่ เพราะการตรวจเช็กระบบน้ำไฟว่าใช้งานได้ จะทำให้เมื่อขนย้ายสิ่งของเข้าไปในบ้านใหม่แล้ว ก็จะสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ทันทีโดยไม่มีติดขัดเรื่องระบบไฟ หรือระบบน้ำ
2. ตรวจสอบพื้นบ้าน
ก่อนการขนย้ายบ้านเข้าบ้านใหม่ ควรตรวจสอบพื้นและผนังให้ดีว่าไม่มีส่วนใดแตกหัก ชำรุดหรือไม่ หากเป็นพื้นกระเบื้อง หรือพื้นลามิเนต ควรลองเหยียบ ไม่ก็เคาะดูทีละแผ่น ว่าไม่มีกระเบื้องหรือแผ่นลามิเนตอันไหนโปร่ง ซึ่งจะทำให้พื้นชำรุดได้ในภายหลัง ควรรีบทำการซ่อมแซมก่อนการขนของย้ายเข้าบ้านใหม่ เพราะหากนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาในบ้านแล้ว การซ่อมแซมพื้นจะทำได้ยาก แต่หากเป็นบ้านเช่าหรืออะพาร์ตเมนต์ เมื่อพบจุดใดชำรุด ควรถ่ายรูปและวิดีโอเก็บไว้ พร้อมแจ้งเจ้าของที่พัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องการคืนเงินประกันตอนย้ายออก
3. ตรวจสอบผนังทุกจุดภายในบ้าน
ควรเข้าไปตรวจสอบผนังทุกจุดภายในบ้านก่อนการขนย้ายบ้านเข้าบ้านใหม่ โดยตรวจดูรอยแตกร้าวต่าง ๆ รอยรั่วของน้ำ รอยซึมของน้ำฝน และควรเคาะดูแผ่นกระเบื้องบุผนังในห้องน้ำหรือห้องครัวด้วยเช่นกัน ว่ามีส่วนใดที่กระเบื้องโปร่งเพราะช่างปูแบบซาลาเปา หรือการทาปูนไม่ทั่วทั้งแผ่น เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ กระเบื้องอาจหลุดร่อนได้
4. ทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของบ้านให้เรียบร้อย
ควรกวาดฝุ่นและเช็ดถูทำความสะอาดพื้นบ้าน ในตอนที่ยังไม่มีข้าวของต่าง ๆ มาวางไว้ เพราะจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ควรเช็ดกระจกหน้าต่าง และทำความสะอาดห้องต่าง ๆ รวมไปถึงห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนการขนย้ายเข้าบ้านใหม่ เพราะเมื่อข้าวของต่าง ๆ จากบ้านเก่ามาถึง พนักงานขนย้ายบ้านจะได้ขนสิ่งของลง เพื่อติดตั้งระบบ หรือจัดวางในบ้านใหม่ได้เลยทันที
โดยคุณควรเลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับงานบ้านแต่ละจุด เพื่อความรวดเร็วและสะดวกสบายขณะคลีนนิ่งก่อนย้ายเข้าบ้านใหม่
สรุป
การจัดบ้านให้น่าอยู่ เพื่อเตรียมของย้ายเข้าบ้านใหม่ให้เป็นระเบียบเป็นหมวดหมู่ จะทำให้การขนย้ายสิ่งต่าง ๆ เข้าไปในบ้านใหม่ และนำออกมาใช้งานใหม่นั้นเป็นไปได้โดยง่าย ไม่วุ่นวายในการที่จะต้องมาเสียเวลารื้อ เสียเวลาหา และประหยัดเวลาในการจัดการสิ่งอื่น ๆ ที่ต้องทำอย่างการทำความสะอาดได้เป็นอย่างมาก
แต่ว่าหากใครไม่สะดวกที่จะต้องทำความสะอาดบ้านใหม่หลังนั้น หรือมีเวลาไม่เพียงพอแล้วล่ะก็ แอปพลิเคชันแม่บ้านออนไลน์ของ bTaskee สามารถตอบโจทย์นั้นให้กับคุณได้อย่างแน่นอน ด้วยบริการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning ที่ใช้แม่บ้านออนไลน์มืออาชีพของเราตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เข้าไปทำความสะอาดบ้านของคุณ และเนรมิตให้บ้านที่พึ่งย้ายเข้านั้นสะอาดเอี่ยมอ่อง ช่วยเบาแรงของคุณที่พึ่งย้ายเข้ามาได้เป็นอย่างดี