พรมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของบ้านที่สำคัญมาก ๆ อย่างหนึ่งเพราะสามารถเปลี่ยนมู้ดแอนด์โทนของบ้านไปได้เลยทีเดียว แต่การ ซักพรม หรือทำความสะอาดพรมกลับเป็นหนึ่งสิ่งที่ไม่ได้ทำกันเองง่าย ๆ เพราะพรมบางชนิดไม่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าทั่วไปได้ ดังนั้นวันนี้ bTaskee จึงมีสาระความรู้ดีดีเกี่ยวกับการทำความสะอาดพรมมาฝากกันค่ะ
พรมประเภทต่าง ๆ ที่มีวิธีดูแลทำความสะอาดต่างกัน
- พรมไนลอน (Nylon) เป็นพรมประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุดเนื่องจากมีหลากหลายสีและทนทานมากมีอายุการใช้งาน 10 ปีเป็นต้นไป สามารถกันน้ำ กันรอยขีดข่วน กันเชื้อราและทนต่อสารเคมีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ราคาจับต้องได้ แต่ข้อเสียคือหากโดนแสงแดดเป็นเวลานานสีจะซีด
- พรมโพลิโพรไพลิน (Polypropylene) เป็นพรมที่นุ่มมีลักษณะคล้ายขนสัตว์ เลอะยากและทำความสะอาดง่าย ทนต่อรอยขีดข่วนและสามารถรับน้ำหนักได้มาก ราคาย่อมเยา แต่ข้อเสียคือหากเลอะคราบน้ำมันจะทำความสะอาดออกยาก
- พรมโพลิเอสเตอร์ (Polyester) เป็นพรมที่นุ่มฟูและสามารถกันน้ำได้ดี ปูแล้วจะให้ความรู้สึกห้องหรูหรา ข้อเสียคือทำความสะอาดค่อนข้างยากและรับน้ำหนักได้ไม่ค่อยดีทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
- พรมโพลิเอทิลีน (Polyethylene) เป็นพรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะทำมาจากขวดฝาพลาสติกรีไซเคิล มีสีนสันสดใสและมีหลายผิวสัมผัส ป้องกันคราบสกปรกได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้และยังมีราคาถูกอีกด้วย แต่ข้อเสียคือจะเดินไม่ค่อยนุ่มสบายเท้า
- พรมปูพื้นขนสัตว์ (wool) เป็นพรมที่ผลิตจากขนสัตว์และกระบวนการทางธรรมชาติ 100% มีลักษณะหนานุ่มฟู สัมผัสนุ่มเท้า สามารถป้องกันคราบได้ดี แต่ข้อเสียคือราคาแพงและทำความสะอาดยากเนื่องจากหากสัมผัสสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
- พรมอะคริลิก (Acrylic) เป็นพรมที่ทำมาเพื่อทดแทนกับพรมขนสัตว์ที่มีราคาสูง กันชื้นและคราบสกปรกได้ดี แต่รับน้ำหนักได้ไม่ดีนัก ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก ๆ
ขั้นตอนการ ซักพรม ด้วยตนเอง
พรมแต่ละชนิดมีวิธีทำความสะอาดที่แตกต่างกัน บางชนิดซักไม่ได้ บางชนิดโดนสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่ได้ การซักทำความสะอาดพรมจึงต้องระวังเป็นพิเศษ โดยวิธีการทำความสะอาดพรมด้วยตนเองเบื้องต้นมีดังนี้
- เช็คว่าพรมสีตกหรือไม่
- กำจัดฝุ่นด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น เพื่อเอาฝุ่นและเศษขยะออกให้หมด
- กำจัดคราบเฉพาะจุดโดยใช้น้ำยาทำความสะอาดให้ตรงกับประภทของคราบนั้น ๆ
- ทำความสะอาดพรมด้วยสบู่ที่มีค่า pH เป็นกลาง ถูด้วยมือหรือแปรงขนเบา ๆ
- สำหรับพรมบางประเภทที่ไม่สามารถนำไปตากแดดได้ ต้องนำไปปั่นแห้งแล้วตามด้วยการอบแห้ง
- เมื่ออบแห้งแล้ว ให้นำแปรงมาแปรงพรมเบา ๆ เพื่อให้เส้นขนของพรมนุ่มฟูไม่แข็งกระด้าง
เคล็ดลับการดูเเลรักษาพรม
- หากพรมชิ้นโปรดของคุณมีลักษณะนุ่มฟู แสดงว่าพรมชิ้นนั้นเก็บสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ดี ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าต้องเดินย่ำเข้าไปบริเวณพรมชิ้นโปรด ควรล้างเท้าให้สะอาดหรือเช็ดทำความสะอาดกับพรมชิ้นอื่นก่อน
- เมื่อเกิดคราบควรทำความสะอาดทันที อย่างปล่อยไว้เป็นเวลานานเนื่องจากจะทำความสะอาดยาก
- ควรดูดฝุ่นบนพรมอาทิตย์ละ 2 ครั้งเพื่อดูดเอาฝุ่น เศษขยะชิ้นเล็ก ๆ และสิ่งสกปรกออก
- พรมที่มีขนาดใหญ่และมีราคาแพงอย่างพรมปูพื้น ควรได้รับการทำความสะอาดที่ถูกต้องด้วยบริการจากมืออาชีพเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
บริการซักพรมจากมืออาชีพโดย bTaskee
หากคุณกังวลเรื่องการทำความสะอาดพรม ไม่มีเครื่องปั่นหรืออบแห้ง และต้องการให้พรมชิ้นโปรดได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เรียกใช้บริการซักพรมจากแอปพลิเคชั่น bTaskee ราคาทำความสะอาดพรมเริ่มต้นเพียง 1,500 บาท ให้พรมของคุณได้รับการดูแลจากมืออาชีพที่มีประสบการณ์