หากกล่าวถึงเฟอร์นิเจอร์ที่คนอยากได้ไปตกแต่งบ้านมากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้น เฟอร์นิเจอร์ไม้ อย่างแน่นอน เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน วางแต่งบ้านมุมไหนก็ดูสวยงามไม่ขัดหูขัดตา ให้ความกลมกลืนในกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติอย่างมากอีกด้วย และปัจจุบันยิ่งมีการพัฒนาดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้มีรูปทรงที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานมากกว่าเดิม แถมมาพร้อมราคาที่ไม่แพง ก็ยิ่งทำให้ใครหลายคนยิ่งอยากได้ไปครอบครอง แต่ปัญหาหลักที่ทำให้คนไม่กล้าเลือกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ก็เพราะกังวลเรื่องการดูแลที่ยากกว่าเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เนื่องจากไม้แต่ละชนิดก็ต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน หากผิดพลาดขึ้นมาก็อาจทำให้เสียหายจนหมดราคาได้
ดูแลตามลักษณะของเนื้อไม้
เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน ซึ่งมีวิธีการดูแลแตกต่างกันดังต่อไปนี้
1.การดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง (ไม้สัก, ไม้ประดู่, ไม้มะค่า, ไม้ตะเคียนทอง)
- หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่พึ่งซื้อมา วิธีดูแลก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงใช้ผ้าที่มีความนุ่มอย่างผ้าขนหนู หรือผ้าฝ้าย ชุบด้วยน้ำเปล่าที่ผสมสบู่แบบเจือจางที่สุด บิดให้หมาด แล้วค่อย ๆ เช็ดให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เสร็จแล้วผึ่งให้แห้งสนิทโดยเร็วที่สุด จะได้ไม่เกิดการบวมน้ำของไม้
- แต่ถ้าหากเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมามีอายุได้สักระยะแล้ว ก็ใช้แค่ผ้าแห้งในการเช็ดทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่ก็พอ หรือจะใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดไม้โดยเฉพาะก็ได้ แต่ต้องระวังส่วนผสมที่ประกอบไปด้วยแอมโมเนียหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำร้ายเนื้อไม้ได้
- ในกรณีที่ไม้มีรอยเปื้อน หรือรอยขูดที่ลึกจนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ให้หากระดาษทรายเบอร์ละเอียดที่สุด ค่อย ๆ ขัดเบา ๆ เพื่อลบรอยเปื้อนนั้น จากนั้นจึงทาขี้ผึ้งเคลือบซ้ำแล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งที่สะอาด
2.การดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน (ไม้ไผ่, ไม้หวาย)
- สำหรับการดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อนนั้น สามารถทำได้เช่นเดียวกับการดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งทุกประการ แต่แตกต่างกันที่ การป้องกันมอดที่มักจะสร้างความเสียหายให้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้อ่อนมากกว่าไม้แข็ง จึงควรมีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแล้วนำไปตากแดดก่อนการใช้งาน
- หากเกิดคราบสกปรก หรือรอยด่างจากน้ำ (ซึ่งเกิดได้ง่ายกว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้แข็ง) ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำส้มสายชูจาง ๆ เช็ดให้ทั่วบริเวณ แล้วทาทับอีกครั้งด้วยขี้ผึ้ง
วิธีดูแล เฟอร์นิเจอร์ไม้ แบบทั่วไป เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ถึงแม้เราจะดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยการทำความสะอาดด้วยวิธีข้างต้นดีแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่สภาพอากาศของประเทศไทยที่มีทั้งร้อนชื้นและฝนตกชุก ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับเฟอร์นิเจอร์ได้เช่นกัน เราจึงจำเป็นต้องรู้จักการดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
1.ปัญหารอยด่างและคราบน้ำ
บางครั้งหากเฟอร์นิเจอร์ไม้ตั้งอยู่ใกล้กับหน้าต่าง ก็อาจเจอคราบน้ำที่เกิดจากละอองฝนกระเด็นมาโดนจนเป็นด่างเป็นดวง สร้างความรำคาญใจให้กับเราทุกครั้งที่มองเห็น วิธีแก้ไขสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดแตะมายองเนสเล็กน้อย แล้วเช็ดบริเวณนั้น คราบน้ำก็จะค่อย ๆ จางหายไป และถ้าบ้านใครมีสัตว์เลี้ยงที่ชอบตะกุยเฟอร์นิเจอร์จนมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ก็สามารถใช้ยาขัดรองเท้าที่มีสีใกล้เคียงกับเนื้อไม้มาทาปิดรอยแล้วตามด้วยขี้ผึ้ง ซึ่งเป็นวิธีที่หลายคนมักจะใช้กันเป็นประจำ
2.ปลวกและมอด
มีไม้อยู่ที่ไหน มักจะเจอปลวกและมอดที่นั่น วิธีกำจัดที่ง่ายที่สุดก็คือการลงน้ำยา หรือฉีดพ่นน้ำยาสำหรับฆ่าแมลงก่อนการทาสีไม้ แต่ถ้าหากเฟอร์นิเจอร์นั้นประกอบมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ต่างจากยาฆ่าแมลงทับลงเฟอร์นิเจอร์ จากนั้นจึงนำไปผึ่งแดดให้แห้ง แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว
3.การขัดสีไม้
เพราะสภาพอากาศของประเทศไทยที่ไม่มีความแน่นอน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้บางชนิดเกิดการหดตัว หรือเกิดการบิดจนทำให้สีลอกออกมา จึงต้องมีการดูแลด้วยการขัดสีส่วนที่ลอกออกให้ถึงเนื้อไม้ จากนั้นก็ขัดผิวโดยรอบให้เรียบ แล้วลงสีใหม่ประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งต้องห่างกันอย่างน้อย 6 ชั่วโมง จึงจะสามารถคืนความสวยให้กับไม้ได้ใหม่อีกครั้ง
4.หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น
ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทาสีน้ำมันสำหรับไม้โดยเฉพาะ โดยทาลงบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีการทำความสะอาดเตรียมไว้แล้ว รอให้แห้งก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
5.ลดความชื้นด้วยการระบายอากาศ
อากาศภายในบ้านก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้มีโอกาสเสียหายได้ อันเนื่องมาจากความอับชื้นที่แฝงตัวอยู่ภายในบริเวณบ้าน เพราะฉะนั้นจึงควรมีการระบายอากาศภายในบ้านด้วยการเปิดพัดลม หรือเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ให้เกิดการถ่ายเทมากที่สุด ซึ่งจะทำให้เนื้อไม้มีความคงสภาพเป็นปกติด้วย
ใครที่กำลังกังวลใจอยู่ว่า หากซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้มาแล้ว จะดูแลได้ไม่ดีและอาจสร้างความเสียหายให้กับไม้ ก็เลิกกังวลในข้อนี้ไปได้เลย หากนำวิธีง่าย ๆ เหล่านี้ไปใช้ในการดูแลไม้ เพราะนอกจากจะทำให้ไม้อยู่ทนคงสภาพแล้ว ยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ดูเหมือนใหม่ คราวนี้ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น
บทความที่คล้ายกัน