เครื่องใช้ในบ้านอย่างหนึ่งที่ทุกบ้านต้องมีนั่นก็คือพรม ซึ่งการจะซื้อพรมมาไว้ในบ้านส่วนใหญ่เราก็จะรู้แค่ว่าพรมนี้ไว้วางบริเวณหน้าบ้าน พรมแบบนี้ไว้วางหน้าห้องน้ำ แต่ที่จริงแล้วยังมีพรมอีกหลายประเภทที่น้อยคนจะทราบว่าที่จริงแล้วพรมเหล่านี้ไว้ทำอะไรกันแน่ วันนี้ bTaskee จะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ ประเภทของพรม ชนิดต่างๆกันค่ะ
1.พรมปูพื้นไนลอน (Nylon)
พรมไนลอน (Nylon) เป็นพรมที่นิยมใช้กันมากเพราะมีหลากหลายสี คุณสมบัติทนทานมากที่สุด สามารถกันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อรา และสารเคมีต่าง ๆ ได้ดีทั้งยังดูแลรักษาง่าย ส่วนราคานั้นก็ไม่แพงมาก แต่จะสูงกว่าพรมโพลีเอสเตอร์และโพลีโพรไพลีนเล็กน้อย เมื่อโดนแสงแดดเป็นเวลานานสีจะซีด มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 12–15 ปี
2.พรมปูพื้นโพลีโพรไฟลีน (Polypropylene)
พรมโพลีโพรไพลีน (Polypropylene) พรมชนิดนี้ได้รับความนิยมรองลงมาจากพรมไนลอน มีคุณสมบัติป้องกันคราบสกปรกได้ดีที่สุด แต่พรมแต่งบ้านชนิดนี้จะกันน้ำได้ดีกว่า นอกจากนั้นยังป้องกันรอยขีดข่วนและเชื้อรา ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ใช้กับสนามกีฬาหญ้าเทียมก็ยังได้
3.พรมปูพื้นโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester) พรมชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่หรูหรา นุ่มสบาย มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีที่สุด แต่ถ้าเป็นคราบสกปรกนั้นยังเป็นรองพรมไนลอนอยู่ แต่ข้อเสียของพรมชนิดนี้ก็มีเช่นกัน นั่นก็คือทำความสะอาดค่อนข้างยาก ไม่สามารถรองรับการใช้งานและน้ำหนักได้มากเหมือนพรมชนิดอื่น ๆ และสีจะซีดถ้าโดนแดดเป็นเวลานาน ฉะนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก เช่น ห้องนอน
4.พรมปูพื้นโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene) พรมชนิดนี้ถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะส่วนใหญ่แล้วพรมโพลีเอทิลีนจะทำมาจากฝาขวดรีไซเคิล ข้อดีของพรมชนิดนี้คือมีสีสดใสและมีพื้นผิวที่หลากหลาย มีคุณสมบัติป้องกันคราบมากกว่าไนลอน เนื่องจากทำมาจากพลาสติกจึงไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาต่ำกว่าพรมขนสัตว์และไนลอน แต่สัมผัสที่ได้จะไม่ค่อยสบายสักเท่าไรเพราะทำมาจากพลาสติก
5.พรมปูพื้นขนสัตว์ (Wool)
พรมขนสัตว์ (Wool) พรมขนสัตว์เป็นพรมที่มีราคาสูงที่สุดเนื่องจากทำมาจากธรรมชาติ 100% มีความหรูหรา หนานุ่ม แข็งแรง ป้องกันคราบและรอยเปื้อนได้ดี ให้สัมผัสที่นุ่มสบายที่สุดในบรรดาชนิดของพรมทั้งหมด พรมขนสัตว์ค่อนข้างทนทานต่อการใช้งานและมีหลายสีให้เลือก แต่ข้อเสียคืออาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ ดูแลทำความสะอาดยาก สีจะซีดถ้าโดนแดดและสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาด และเมื่อใช้ไปสักระยะจะมีแมลงต่าง ๆ มาอาศัยอยู่ ฉะนั้นจึงต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ
6.พรมปูพื้นอะคริลิก (Acrylic)
พรมอะคริลิก (Acrylic) พรมอะคริลิกเป็นพรมที่ทำขึ้นมาเลียนแบบพรมขนสัตว์ มีลักษณะและสัมผัสคล้ายกับพรมขนสัตว์แต่ราคาจะถูกกว่ามาก ข้อดีของพรมชนิดนี้คือไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต กันความชื้น คราบสกปรก แต่จะไม่แข็งแรงทนทาน ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
ถึงแม้เรื่องพรมดูจะเป็นเรื่องง่ายเวลาตอนซื้อมาตกแต่งบ้าน แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามเพราะเห็นว่าเป็นแค่พรมที่วางไว้แค่บนพื้น เพราะุ้าเราใช้พรมผิดประเภทหรือเลือกไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของพรมประเภทนั้นๆ ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีของการที่นำพรมมาใช้ภายในบ้านนะคะ