ผ้าม่านคือหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักของการตกแต่งห้อง แต่มือใหม่ในการแต่งบ้านหลาย ๆ คนคงอาจจะยังไม่ทราบว่าก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผ้าม่านควรคำนึงถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการติดตั้งด้วย bTaskee เอาเทคนิคดีดีมาฝากเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งผ้าม่านค่ะ
ผ้าม่านไม่พอดีกับขนาดขอบหน้าต่าง
วิธีแก้ปัญหา: วัดขนาดขอบหน้าต่างและขนาดผ้าม่านให้พอดี โดยวัดระยะให้ราวผ้าม่านทั้งสองด้านอยู่ห่างจากวงกบของหน้าต่างประมาณ 20-30 เซนติเมตร
ผ้าม่านอยู่ต่ำเกินไป
วิธีแก้ปัญหา: ติดตั้งราวผ้าม่านให้สูงกว่าระดับขอบหน้าต่างอย่างน้อยประมาณ 20-30 เซนติเมตรเหนือวงกบหน้าต่าง เพื่อให้ผ้าม่านแขวนอยู่ในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้การติดตั้งผ้าม่านในระดับสูงจะช่วยทำให้ห้องดูสูงขึ้นด้วย
ผ้าม่านสั้นเกินไป
วิธีแก้ปัญหา: วัดขนาดความยาวของผ้าม่านให้พอดีกับพื้น โดยให้เว้นระยะห่างของชายผ้าม่านกับพื้นไว้ประมาณ 1-2 เซนติเมตร
จีบของผ้าม่านดูแข็งทื่อและไม่พริ้วไหว
วิธีแก้ปัญหา: เมื่อเลือกซื้อผ้าม่านควรเพิ่มขนาดความกว้างให้เป็น 2-3 เท่าของความกว้างหน้าต่าง เพื่อเพิ่มเลเยอร์และจีบของผ้าม่านให้ดูพริ้วไหวมากขึ้น เช่น หากหน้าต่างกว้าง 150 เซนติเมตร ควรซื้อผ้าม่านขนาดความกว้างเท่ากับ 300-400 เซนติเมตร
ผ้าม่านบังแสงได้ไม่ดีเท่าที่ควร
วิธีแก้ปัญหา: หากต้องการให้บริเวณห้องที่จะติดตั้งผ้าม่านไม่มีแสงรบกวนในขณะนอนหลับหรือพักผ่อน ควรเลือกซื้อผ้าม่านที่มีคุณภาพดี หนา ทึบ และมีน้ำหนัก ผ้าม่านที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยบังแสงได้ดีกว่าผ้าม่านบังแดดทั่วไป ผ้าม่านที่แนะนำ เช่น ผ้าม่าน Blackout ผ้าม่าน Dimout
ผ้าม่านโปร่งและบางจนไม่กรองแสง
วิธีแก้ปัญหา: ควรเลือกผ้าม่านโปร่งคุณภาพที่มีคุณสมบัติช่วยกรองแสงได้ดี หรือติดผ้าม่านทึบเสริมเพื่อให้สามารถกรองแสงได้ดีขึ้นและเพิ่มลูกเล่นให้กับห้อง
ม่านตกท้องช้างหรือรางม่านแอ่น
วิธีแก้ปัญหา: เลือกรางผ้าม่านที่มีความหนาและแข็งแรง ในกรณีที่ผ้าม่านมีน้ำหนักมาก ให้ยึดราวม่านกับผนังถี่ขึ้นจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ
และคุณควรทำความสะอาดผ้าม่านอย่างสม่ำเสมอเพื่อปกป้องสุขภาพของครอบครัวคุณ bTaskee เชิญคุณปรึกษาบริการซักผ้าม่านอย่างมืออาชีพและสะดวก