ใครที่กำลังมองหาวิธีล้างแอร์แบบประหยัดงบ และ ไม่อยากเรียกช่างบ่อย ๆ การล้างแอร์ด้วยตัวเองอาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ก่อนจะลงมือทำ ต้องเข้าใจกระบวนการให้ชัดเจน และ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะถ้าทำผิดวิธี นอกจากแอร์จะไม่เย็นแล้ว ยังอาจจะได้รับความเสียหายอีกด้วย ดังนั้น มาดูวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองแบบละเอียด และ เข้าใจง่ายกันเลย
ทำไมต้อง ล้างแอร์ ด้วยตัวเอง
การล้างแอร์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่เรื่องของการประหยัดเงินค่าช่าง แต่มันยังช่วยให้คุณเข้าใจระบบแอร์ในบ้านได้ดีขึ้น สมมติแอร์เย็นช้าหรือเสียงดังผิดปกติ คุณก็สามารถตรวจสอบ และ แก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้เอง โดยไม่ต้องรอช่างมาวุ่นวายที่บ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ดูแลอุปกรณ์ในบ้านแบบใกล้ชิด และ ยังช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาใหญ่ในระยะยาวอีกด้วย
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่ม ล้างแอร์ ด้วยตัวเอง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
การล้างแอร์ด้วยตัวเองจะไม่ยุ่งยากเลย ถ้าคุณเตรียมอุปกรณ์ให้ครบ และ พร้อมใช้
- ฟิลเตอร์แอร์: สิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญของการล้างแอร์ เพราะมันคือจุดที่สะสมฝุ่นมากที่สุด
- ผ้าคลุมกันฝุ่น: ป้องกันน้ำ และ ฝุ่นเลอะเฟอร์นิเจอร์ หรือ พื้น
- น้ำยาล้างแอร์: เลือกน้ำยาที่ปลอดภัยต่อวัสดุแอร์ และ มีคุณสมบัติขจัดคราบสกปรกได้ดี
- แปรงขัดฟองน้ำ: ใช้ขัดคราบฝังแน่นในจุดที่น้ำไม่สามารถล้างออกได้
- ถังน้ำหรือสายยาง: ใช้สำหรับล้างคราบน้ำยาที่ฉีดไว้
- ไขควง: จำเป็นสำหรับถอดฝาแอร์ออก
- ผ้าแห้ง: ใช้สำหรับเช็ดส่วนที่เปียกให้แห้งสนิท
การจัดพื้นที่
การล้างแอร์อาจมีน้ำ และ ฝุ่นกระเด็นออกมาเยอะ ดังนั้นควรคลุมพื้นที่รอบ ๆ ด้วยผ้ากันเปื้อน หรือ พลาสติกคลุมพื้น หากแอร์อยู่ในห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือ ของตกแต่งเยอะ ควรเคลื่อนย้ายออกไปให้ห่างจากจุดที่ทำงาน เพื่อป้องกันความเสียหาย
นอกจากนี้ อย่าลืมปิดระบบไฟฟ้าของแอร์ก่อนเริ่มล้างทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย
ขั้นตอนการ ล้างแอร์ ด้วยตัวเอง แบบ Step by Step
1. ถอดฟิลเตอร์และล้าง
เริ่มจากการถอดฟิลเตอร์แอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่รับฝุ่นมากที่สุด เมื่อถอดออกมาแล้ว ให้เคาะฝุ่นเบา ๆ ก่อนล้างน้ำสะอาด หากฟิลเตอร์มีคราบมัน หรือ สิ่งสกปรกฝังแน่น ใช้สบู่อ่อนผสมกับน้ำอุ่นในการล้าง จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วผึ่งในที่ร่มจนแห้งสนิท อย่าวางตากแดดจัด เพราะอาจทำให้ฟิลเตอร์เสียหาย
2. ทำความสะอาดคอยล์เย็น
คอยล์เย็นเป็นอีกจุดที่มักจะสะสมคราบ และ ฝุ่น ลองใช้สเปรย์น้ำยาล้างแอร์ฉีดลงไปในคอยล์เย็น โดยฉีดให้ทั่วทุกซอกมุม ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำยาเข้าไปสลายคราบ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดผ่านสายยาง หรือ ขวดน้ำที่มีแรงดันเบา ระวังอย่าให้น้ำกระเด็นไปโดนส่วนที่เป็นระบบไฟฟ้า
3. เช็ดพัดลมและใบพัด
พัดลม และ ใบพัดอาจมีคราบเหนียว หรือ ฝุ่นติดอยู่ ใช้แปรงขัดฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ หากเจอคราบที่ล้างออกยาก ใช้น้ำยาช่วยขจัดคราบได้ แต่อย่าใช้แปรงที่มีขนแข็งเกินไป เพราะ อาจทำให้ใบพัดเสียหาย
4. ตรวจสอบและล้างท่อน้ำทิ้ง
ท่อน้ำทิ้ง เป็นอีกจุดที่มักมีปัญหาอุดตัน หากน้ำไม่ไหลลง หรือ มีคราบสกปรกอุดตันอยู่ ใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปเพื่อล้างสิ่งที่ค้างออกมา หรือ ใช้ลวดบาง ๆ ช่วยดึงเศษฝุ่นออก
5. ประกอบทุกอย่างกลับเข้าที่
เมื่อทำความสะอาดทุกส่วนเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบว่าส่วนที่เปียกแห้งสนิทหรือยัง หากแห้งดีแล้ว จึงประกอบฟิลเตอร์ และ ฝาแอร์กลับเข้าที่เดิม ตรวจดูว่าทุกส่วนติดแน่นเรียบร้อยเพื่อป้องกันเสียงดังระหว่างใช้งาน
เคล็ดลับเพิ่มความง่ายในการ ล้างแอร์ ด้วยตัวเอง
- ใช้น้ำยาล้างแอร์ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับในเครื่อง
- ล้างแอร์ในช่วงเช้าหรือเย็น เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้ล้างสะดวก และ ไม่เหนื่อย
- หากล้างเสร็จแล้ว อย่าลืมเช็คว่าลมแอร์ไหลเวียนดีหรือยัง หากยังมีปัญหา ควรตรวจสอบเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
สิ่งที่ควรระวัง
- อย่าใช้น้ำแรงดันสูงล้างคอยล์เย็น เพราะอาจทำให้ท่อในคอยล์เสียหาย
- หากพบสายไฟหลวม ห้ามซ่อมเอง ให้เรียกช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบ
- หากแอร์ยังไม่เย็นหลังล้าง อาจมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำยาแอร์ ซึ่งควรให้ช่างเติมน้ำยาให้แทน
สรุป
การ ล้างแอร์ด้วยตัวเอง เป็นวิธีที่ช่วยประหยัด และ ทำให้คุณดูแลแอร์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องมีความเข้าใจในกระบวนการ และ ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ ช่วยให้แอร์เย็นสบายเหมือนใหม่ หากทำตามขั้นตอนที่แนะนำ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างช่าง และ ยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกนาน
