โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักประจำห้องนั่งเล่น วิธีการเลือกโซฟา จึงต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษเพราะถ้าได้โซฟาที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมกับห้องนั่งเล่นของเรา ก็คงจะรู้สึกแย่แถมเผลอๆอาจจะอายแขกที่มาเยี่ยมบ้านอีกด้วย วันนี้ bTaskee ได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกโซฟาที่ดีว่าพิจารณาจากอะไรบ้าง
วัดพื้นที่และกำหนดขนาดก่อนซื้อ
ก่อนจะเลือกซื้อโซฟาทุกครั้ง แนะนำให้วัดพื้นที่ที่จะนำมาตั้งก่อน ทั้งความยาว ความลึก และความสูง ไปถึงหน้าร้านก็จะได้ตัดสินใจเลือกแบบโซฟาที่เข้ากับห้องนั่งของเราได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็อย่าลืมเช็กขนาดของประตู บันได หรือทางเดินที่ต้องขนย้ายโซฟาผ่านด้วย เพราะถ้าหากเรารู้ว่าทางเข้า-ออกมีขนาดจำกัด ก็จะช่วยให้เลือกลักษณะของโซฟาได้อย่างเหมาะสม ลดปัญหาการขนส่ง
เลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ได้ขนาดของโซฟาที่ต้องการแล้ว ต่อไปก็ต้องมองหาประเภทของโซฟาที่เหมาะสม โดยแบบโซฟาที่ดีควรมีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน มีจำนวนที่นั่งที่พอดีกับคน และมีขนาดเข้ากันกับพื้นที่ห้อง ประเภทของโซฟาที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ มีดังนี้
- แบบโซฟาเบด : โซฟาที่สามารถนั่งชิลหรือปรับนอน รูปทรงเรียบง่าย สวยงาม เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด จึงต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันเสริมเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า
- แบบโซฟา 2 ที่นั่ง : โซฟาที่ออกแบบมาเพื่อให้คน 2 คนนั่งได้อย่างสบาย เหมาะกับคู่รัก ครอบครัวขนาดเล็ก หรือคนที่ไม่ค่อยมีแขกมาบ้าน
- แบบโซฟา 3 ที่นั่ง : โซฟาที่ออกแบบมาเพื่อให้คน 3 คนนั่งได้อย่างสบาย ขนาดกว้างขวางกำลังดี แถมยังสามารถนอนเล่นได้ จึงได้รับความนิยมมากที่สุด แต่จะเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่มากพอสมควร
สไตล์ของโซฟา
สไตล์ของโซฟาก็มีความสำคัญไม่แพ้ขนาดและความเหมาะสม ที่สำคัญคือมีให้เลือกหลากหลายสไตล์มาก โดยแต่ละสไตล์จะมีลักษณะและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป เช่น
- คลาสสิก (Classic Traditional) : เน้นความเรียบง่าย น่ามอง ไม่ธรรมดา และไม่หรูหราจนเกินไป เหมาะกับคนทุกยุค ทุกเพศ ทุกวัย จึงนิยมใช้ในบ้านที่มีสมาชิกจำนวนมาก หรือบ้านที่ต้องการความสงบและอบอุ่น
- ยุคกลาง (Mid Century) : เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและการใช้งาน จึงมีรูปทรงที่เรียบง่าย แต่สีสันสวยงามสะดุดตา เหมาะกับคนที่อยากให้ห้องนั่งเล่นสดชื่นและมีชีวิตชีวา
- ร่วมสมัย (Contemporary) : ค่อนข้างเรียบง่าย ทั้งดีไซน์และโทนสีเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ห้องนั่งเล่นอบอุ่น ผ่อนคลาย และน่านั่งพักผ่อน
- อินดัสเทรียล (Industrial) : โซฟาแบบนี้จะโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้และโลหะ อีกทั้งยังมีโทนสีที่เป็นกลางหรือเป็นธรรมชาติเหมือนกันกับโซฟาสไตล์ร่วมสมัย
- สแกนดิเนเวียน (Scandinavian) : โซฟาสไตล์นี้มาพร้อมกับการออกแบบที่เรียบง่ายและขาไม้สีธรรมชาติ จุดเด่นอยู่ที่ความสวยงาม แข็งแรง แถมยังให้ความรู้สึกพอดี ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป สามารถนำไปแต่งบ้านได้หลากหลาย แต่จะดูสดใสมากขึ้น
- กลางแจ้ง (Outdoor) : เหมาะกับการตั้งไว้นอกบ้าน ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงและทนต่อทุกสภาพอากาศ จึงค่อนข้างแข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้นานเป็นพิเศษ
มองหาวัสดุหุ้มโซฟาที่สวยงามตรงใจ
ทุกวันนี้มีวัสดุหุ้มโซฟาให้เลือกสรรมากมาย แต่ละชนิดก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ฉะนั้นต้องพิจารณาให้รอบคอบ พร้อมทั้งเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
- โซฟาผ้า : เป็นโซฟาที่คลาสสิกที่สุด ใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย พื้นผิวค่อนข้างนุ่มและเนียน เข้าได้กับทุกสไตล์ ทำความสะอาดได้ง่าย จึงเหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง หรือบ้านที่เน้นเฟอร์นิเจอร์แนวธรรมชาติเป็นพิเศษ
- โซฟากำมะหยี่ : เป็นโซฟาที่ให้ความรู้สึกหรูหรา อลังการ พื้นผิวค่อนข้างเนียนเรียบ น่าสัมผัส ส่วนจุดเด่นอยู่ที่เฉดสี ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ฉูดฉาดไปจนถึงธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถทนต่อรอยคราบได้พอสมควรด้วย
- โซฟาหนัง : เป็นโซฟาที่แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง แต่สามารถเกิดรอยได้ง่าย จึงต้องระวังเรื่องการขีดข่วน อย่างไรก็ตามโซฟาชนิดนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะไม่เก็บขน ผม และฝุ่น แต่จะทำความสะอาดยาก จึงต้องดูแลรักษามากเป็นพิเศษ
พิจารณาสีให้เหมาะกับห้อง
สีของโซฟาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ สีโทนกลาง ที่จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อน กับสีฉูดฉาดที่จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นโดดเด่น สะดุดตา รู้สึกสดชื่น สดใส เหมาะกับคนที่ชอบความกระปรี้กระเปร่า
ใส่ใจกับโครงสร้างภายในเป็นพิเศษ
หลังจากเลือกลักษณะภายนอกได้ตรงใจแล้ว ก็อย่าลืมกับโครงสร้างภายในของโซฟา เพราะการซื้อโซฟาที่โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน และมีประสิทธิภาพ จะทำให้โซฟาอยู่กับเราได้นานขึ้นและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป โดยโซฟาที่ทำจากโครงสร้างไม้ก็ยืนหนึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ต้องอย่าลืมเช็กประเภทของไม้ ส่วนประกอบอื่น ๆ รวมไปถึงประกันหลังการขายด้วย โซฟาบางรุ่นจะมีราคาสูงกว่าแบบอื่น ๆ แต่ถ้ามีประกันให้ตลอดอายุการใช้งานก็ถือว่าคุ้มมากทีเดียว
เลือกเบาะให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เบาะที่ทำจากขนเป็ดหรือขนห่านจะให้ความสบาย แต่ต้องคอยตีให้ฟูอยู่ตลอด เบาะที่ทำจากโฟมหรือเส้นใยจะแข็งแรง แต่แบนและเสียทรงได้ง่ายกว่า ดังนั้นควรเลือกแบบโซฟาที่ใช้ทั้งขนเป็ดและโฟมผสมกัน เพราะขนนกจะช่วยให้เบาะนุ่ม ส่วนโฟมจะช่วยให้เบาอยู่ทรง
ลองใช้งานก่อนซื้อทุกครั้ง
โซฟาส่วนใหญ่จะมีความลึกของเบาะนั่งประมาณ 60 เซนติเมตร ส่วนความสูงประมาณ 45-50 เซนติเมตร เพื่อให้ได้โซฟาที่รองรับสรีระของทุกคนภายในที่พักอาศัยอย่างดีที่สุด ควรเช็กทั้งความกว้าง ความสูง ความลึก และความยาวของโซฟาให้ละเอียด และที่สำคัญควรให้สมาชิกในบ้านลองนั่ง
ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะกับวิธีการเลิอกโซฟาให้ตรงตามที่ต้องการแถมยังสามารถประหยัดงบไม่ต้องซื้อโซฟาบ่อยด้วย นอกจากการเลือกโซฟาแล้ว อีกสิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือการทำความสะอาดโซฟา เพราะอย่างที่บอกไปโซฟาบางประเภทก็จะกักเก็บฝุ่นได้ง่าย ดังนั้นทุกท่านควรจะให้ความสำคัญกับความสะอาดของโซฟา ซึ่งทาง btaskee เองก็มีบริการทำความสะอาดโซฟาที่ให้บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,300 บาทเพียงเท่านั้น สำหรับท่านใดที่สนใจบริการทำความสะอาดโซฟา สามารถกดจองบริการได้เลยที่แอปพลิเคชั่น bTaskee