🥵 หนีอากาศร้อนตับแลบมาพึ่งพาอากาศเย็นจากแอร์ในบ้าน แต่เปิดเพลินๆ ใช้แบบเต็มที่ มารู้ตัวอีกทีก็เกือบเป็นลมเพราะบิลค่าไฟแพงมากกกก! เดือนหน้าต้องหาทางลดค่าไฟด่วนด้วยวิธีดังนี้
1. เปิดพัดลมช่วย : ปรับอุณหภูมิเหลือสัก 26-27 องศาเซียลเซียสควบคู่กับการเปิดพัดลมไปด้วยก็ช่วยลดค่าไฟได้ระดับหนึ่งนะ เพราะแอร์จะได้ทำงานไม่หนักมาก แถมช่วยไล่ความร้อนในห้องได้ดีด้วย
2. เปิดหน้าต่างไล่ความร้อนก่อนเปิดแอร์ : หากรู้ตัวว่าจะเปิดแอร์ในไม่กี่ชั่วโมงให้เตรียมเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทและไล่ความร้อนในห้อง เมื่อความร้อนในห้องลดลงให้ปิดทุกอย่างให้สนิทแล้วค่อยเปิดแอร์นะ ที่นี้อากาศจะเย็นขึ้นมากและเครื่องไม่ทำงานหนักจ้า
3. เปิดแอร์เท่าที่จำเป็น : จากที่ต้องเปิดแอร์เวลานอนทุกคืน อาจะเปลี่ยนมาเปิดก่อนนอนสัก 2-3 ชั่วโมงก็ได้นะ พอใกล้จะนอนแล้วค่อยปิดและเปิดพัดลมคู่ไป ก็หลับสบายดีเหมือนกัน
4. เลี่ยงการเพิ่มความชื้นในห้อง : เพราะหน้าที่ของแอร์กว่า 70% คือการลดความชื้นในอากาศเพื่อให้ห้องแห้ง ดังนั้นใครที่ชอบตากผ้าในห้องหรือปลูกต้นไม้ในบ้านเยอะๆ ควรลดตรงนี้หน่อยนะ เพราะน้องแอร์จะทำงานหนักจ้า
5. ล้างแอร์ทุก 6 เดือน : เช็กดี ๆ ว่าแอร์ในบ้านเราล้างครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ถ้าเกิน 6 เดือนควรจัดการหาช่างมาล้างเลยจ้า เพราะแอร์ที่ขาดการทำความสะอาดจะยิ่งทำงานหนักและปล่อยความเย็นออกมาไม่ได้ เป็นเหตุทำให้ค่าไฟพุ่งสุดๆ หากไม่รู้จะไปหาช่างจากไหนที่ bTaskee เรามีบริการล้างแอร์ด้วยเช่นกัน! โดยเราให้บริการล้างตั้งแต่แอร์ติดผนัง แอร์แขวน แอร์ตั้งพื้น แอร์สี่ทิศทาง และแอร์ฝังเพดาน ราคาเริ่มต้นที่ 600 บาทต่อเครื่อง (ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของ BTU และประเภทแอร์) หากคุณรู้ตัวว่าต้องการล้างแอร์แล้ว สามารถกดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน bTaskee เพื่อจองบริการที่ระบบ Android และ iOS ได้เลย!